คาถาเงินล้าน พร้อมวิธีปฏิบัติจริงโดยละเอียด
**การทำให้ค้าขายคล่อง***
การที่จะติดต่อทำธุรกิจกับใครเราจะต้องรู้จักการเชื่อมบุญ การขออโหสิกรรม การแผ่เมตตาเสียก่อน เพื่อต้องการให้เขามาซื้อสินค้าเรา ก่อนที่จะทำต้องมีศรัทธาและเชื่อมั่นว่าหนทางน้าจะช่วยเราได้ และต้องอาศัยคาถาเงินล้านที่สวดด้วยจิตอันตั้งมั่น ไร้ความอยาก ความโลภ ความอยากต่าง ๆ ที่เป็นกิเลศให้สวดด้วยความมีเมตตา ความกรุณา ความรัก ให้มโนภาพเห็นแสงสว่างสีขาวอันนุ่มนวล แผ่ความกรุณาไพศาล ให้เห็นกลีบดอกบัวสีขาวเป็นล้าน ๆ กลีบ แผ่ความรักความกรุณาจากเหนือกลางกระหม่อมออกไปถึงบุคคลนั้น หรือมวลมนุษย์ สรรพสัตว์ ตลอดถึงจักรวาลทั้ง ๓ ภพ ขอให้ท่านทั้งหลาย จงเป็นสุข ๆๆๆ ทุกท่านทุกคนเทอญ เป็นการเสริมบุญเก่าที่เคยทำมาด้วยกัน และเพิ่มบุญใหม่เข้าไปช่วยมีการกล่าวขออโหสิกรรม และให้อโหสิกรรมต่อกัน
วิธีการใส่บาตรวิระทะโยและการนับลูกประคำเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
๑.นำเงินใส่ไว้ในมือ พร้อมกับพนมมือ ตั้งนะโม ๓ จบ ต่อด้วยการสวดไตรสรณคมน์ พร้อมทั้งนึกถึงความหมายของบทสวด
๒.สวดคาถาเงินล้านจำนวน ๓,๕,๗,๙ จบ แล้วแต่ตามความเหมาะสม ในขณะที่สวดให้นึกถึงสมเด็จองค์ปฐม องค์ปัจจุบัน พระปัจเจกพระพุทธเจ้า หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ โดยจิตต้องไม่อยากมีอยากได้ หรือหวังผลจากการใด ๆ
๓.นำเงินหยอดลงไปในบาตรวิระทะโย เมื่อเงินตกลงในบาตรแล้ว ในทันทีให้นึกว่า ขอบุญกุศลนี้จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน ทั้งต่อหน้าก็ดีและลับหลังก็ดี ทั้งมีเจตนาก็ดีไม่มีเจตนาก็ดี ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และขอบุญกุศลนี้จงถึงแก่เทวดาที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า และเทวดาที่รักษาประตูเงินประตูทองของข้าพเจ้า พร้อมทั้งท่านท้าวพญายมราชขอจงมโนทนาผลบุญส่วนกุศลนี้ และจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญครั้งนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
๔. ให้ปฏิบัติอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน เมื่อเงินเต็มบาตรให้นำเงินจำนวนนี้ไปทำบุญเพื่อสร้างวิหารทาน ห้องน้ำ หรือถวายเป็นสังฆทาน ตามวัดที่มีพระผู้ปฏิบัติกรรมฐาน
การนับลูกประคำ
๑.ให้จับประคำโทนพร้อมทั้งตั้งนะโม ๓ จบ ต่อด้วยการสวดไตรสรณคมน์ พร้อมทั้งนึกถึงความหมายของบทสวด และให้กำหนดจิตไปที่กึ่งกลางของลูกประคำ
๒.สวดคาถาเงินล้าน ขณะนั้นให้กำหนดจิตเพ่งไปที่ลูกประคำจนสวดจบ ๑ บท ต่อจากนั้นให้นิ้วจับที่ลูกประคำลูกต่อไปพร้อมทั้งสวดคาถาเงินล้าน จิตก็กำหนดจิตเพ่งไปที่กึ่งกลางของลูกประคำ ให้ทำเช่นนี้ไปจนครบลูกประคำทั้งเส้น
๓.วิธีการนับลูกประคำนี้ นอกจากจะทำให้เกิดความคล่องตัวแล้ว ยังสามารถใช้ในการเสี่ยงทาย หรือช่วยในการตัดสินใจกระทำการต่าง ๆ ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
โดยในขณะที่ทำการนับลูกประคำนั้น สามารถนับไปจนครบไม่ติดขัดแสดงว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำการใด ๆ นั้น จะประสบความสำเร็จ
หากแม้นว่ามีสิ่งที่ทำให้การนับสะดุด หรือติดขัดไม่สามารถสวดได้จนจบครบทั้งเส้น แสดงว่าไม่ควรที่จะตัดสินใจทำการต่าง ๆ นั้น เพราะจะเกิดปัญหา หรือไม่ประสบความสำเร็จ ในระหว่างที่ทำการนับนั้น จะพูดคุย นั่ง เดิน หรือกระทำกิจการใด ๆ ก็ขอให้จิตเพ่งอยู่ที่กึ่งกลางของลูกประคำอยู่ตลอด วิธีการนี้สามารถช่วยให้มีความคล่องตัวในช่วงเวลาที่ขัดสน หรือติดขัดทางด้านการเงิน
คำนมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก
และให้ตั้งสัจจะอธิษฐานถึงคนคนนั้น และเรื่องสินค้าที่จะขายให้กับเขา ขอให้บุญกุศลที่ทำนั้นเป็นการเชื่อมบุญระหว่างกันและกันเพื่อให้กรรมที่อาจจะมีต่อกัน เบาบางลงไป และจะต้องรักษาศีลตามอัตถภาพ จะต้องทำให้ได้ตามสัจจะที่ให้ไว้ ๓ วัน ๗ วัน ๑๐ วัน แต่ทางที่ดีควรรักษาให้ได้ตลอดดังพระบาลีที่ว่า สีเลนะโภคสัมปทา แปลว่า ผู้ถึงพร้อมด้วยศึล ย่อมเป็นผู้มีโภคมาก
และอยากจะแนะนำท่านที่เป็นพ่อค้า แม่ขาย จะขายอะไรก็ตาม ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของนั้น เขาก็คือ เจ้ากรรมนายเวรแบบมีชีวิตด้วยเหมือนกัน เมื่อเขาเอาเงินเอาบุญมาส่งให้ ก็ควรจะทำการอุทิศบุญให้เขาด้วย เป็นการเชื่อมบุญ (ให้กำหนดจิตดังได้อธิบายไว้เบื้องต้นนั้น) เสริมบุญกระตุ้นความดีในดวงจิตของเขาให้มีมากขึ้น ให้เขาเอาบุญมาให้เราอีกมาเป็นขาประจำ อุดหนุนกันไปตลอด การค้าจะรุ่งเรือง
อีกอย่างการจะใช้ชีวิตให้มีความสุขและมั่งคั่งนั้น ต้องรู้จักเทวดาผู้ที่รักษาตัวเราเสียก่อน มีหลายจำพวก พวกหนึ่งก็คอยรักษาคุ้มครองป้องกัน ปัดเป่าคอยให้คำชี้แนะ ดลใจ อีกพวกหนึ่งก็คอยดูแลประตูเงินทองให้ความยับยั้งชั่งใจ และใช้จ่ายเงินทองอย่างระมัดระวัง ถ้าผู้ใดเป็นหนี้เราหรือทรัพย์สินของเราสูญหาย ก็สามารถนำกลับคืนมาให้เราได้ดังเดิม ทุกครั้งที่เราจะกระทำบุญต่าง ๆ ต้องอย่าลืมอุทิศบุญให้แก่เทวดาที่รักษาตัวของเราด้วยทุกครั้ง เพื่อให้เขาได้มีกำลังและสามารถนำบุญของเราไปผลัดผ่อนให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเราได้ เทวดาทั้งหลายเหล่านี้ส่วนมากก็คือ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณต่อเรา และเรามีบุญคุณต่อเขาทั้งหลาย จึงมีกรรมผูกพันต่อเรา
อีกอย่างเราจะต้องอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของเราด้วย ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิตทั้งหมด เพื่อที่จะให้อุปสรรคทั้งทางเรื่องการเงิน การงาน เบาบางหรือหายไปด้วยการหนุนบุญให้สูงขึ้น สิ่งที่สำคัญที่ทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิและเสริมการเงิน และการงาน คือ
-ทาน- การให้ การให้ต้องให้ของที่ดี ตั้งใจดี ผู้รับดี
-ศีล- คือการงดเว้น การไม่ก่อกรรมเวรเพิ่มขึ้น เพื่อตัดอุปสรรคการเงิน การงานต่าง ๆ
-ภาวนา- ต้องทำให้ได้ตลอดเวลา ทุกสถานที่ ทุกอิริยาบถ
ข้อแนะนำการเตรียมตัวก่อนทำสมาธิ
- การหาเวลาที่เหมาะสม เช่น ไม่ใช้เวลาใกล้เที่ยงเป็นต้น จะทำให้เกิดอาการหิวข้าว หรือทำใกล้เวลารับประทานอาหาร และไม่รับประทานอิ่มเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการง่วงนอน
- การหาสถานที่ที่เหมาะสม ไม่อยู่ในสถานที่อึกทึก ครึกโครม
- เสร็จจากธุระภารกิจต่าง ๆ ไม่ให้มีเรื่องกังวล
- อยู่ในอาการท่าทางที่สบาย ไม่ติดขัด แต่อย่าอยู่ในท่าที่เกียจคร้าน เช่น การนอนหงายบ่อย ๆ เป็นต้น
- ไม่ควรนึกถึงผลและคาดหมายหวังสิ่งต่าง ๆ เพราะเป็นการสร้างความกดดันทางใจ โดยไม่รู้ตัว และเกิดความกระวนกระวาย ทำให้จิตไม่เกิดสมาธิ ต้องทำใจให้ว่างมากที่สุด
- ต้องทำให้การนั่งแต่ละครั้ง ต้องทำให้ดีที่สุดตามเวลาที่กำหนดไว้
- ต้องทำให้เกิดความชำนาญ ทำทุกวัน ให้เกิดความเคยชินเป็นนิสัย
- ที่สำคัญต้องมีความเมตตาแผ่ไพศาลและต้องตัดปลิโพธิ คือ ความห่วงใยต่าง ๆ และเอาจิตจดจ่อในสิ่งที่ตนภาวนาหรือกระทำอยู่ ให้ความเพียวและสติสม่ำเสมอกัน อย่ามากกว่ากัน อย่าต่ำกว่ากัน
พระคาถาเงินล้าน
(นะโม ๓ จบ)
สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
นาสังสิโม (คาถาพระพุทธกัสสป)
พรหมมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะระยันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมมาจะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม (คาถาเงินแสน)
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
วิริหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
พุทธัสสะมานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤาๆ
ตุลิตะ ตุลิตัง สีคะ สีคัง (คาถารวดเร็วทันใจ)
(บูชา ๓, ๕, ๗, ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
2.เคล็ดการใช้พระคำข้าวเก้ามงคล
และสวดพระคาถาเงินล้าน
เราจะสังเกตได้ว่าใครก็ตามที่ทำพระคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ ความคล่องขัดในการดำเนินชีวิตจะมีน้อยกว่าคนอื่นเขา ขอยืนยันคำว่า 'จริงจังและสม่ำเสมอ' เพราะว่าเรื่องคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนจะเป็นอภิญญาได้ จะต้องมีความจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำๆทิ้งๆ เมื่อท่านทั้งหลายได้ทำจริงจังและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะทำในจำนวนที่มาก อย่างเช่นว่า อาจจะภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ เป็นต้น ก็จะมีความสะดวกคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา
เริ่มแรก.. ใช้การภาวนาจากที่เคยใช้อยู่ ๙ จบ ก็เพิ่มมาเป็น ๓๐ จบ .. จากที่ใช้ ๓๐ จบ แล้วรู้ว่าเวลามันเหลืออีกเยอะ ก็เพิ่มเป็น ๓๐๐ จบ .. ไล่มากเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เป็น ๓๖๐ จบ เป็น ๖๐๐ จบ เป็น ๙๐๐ จบ เป็น ๑,๒๐๐ จบ เป็นต้น
การท่องใช้วิธีท่องอย่างช้าๆ โดยจับลมหายใจภาวนาไปด้วย เป็นการเน้นคุณภาพไม่ใช่จ้ำๆให้จบไป สักแต่ว่าเอาปริมาณ เรื่องของคาถา ถ้าทำด้วยความเคารพจริงจังและสม่ำเสมอแล้ว ไม่เกิน ๒ เดือน ผลก็จะเกิดขึ้น
พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านมาโปรด ท่านบอกว่า ..
'ถ้าภาวนาคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐาน ทรงอารมณ์โดยไม่เคลื่อนเลยวันละ ๑ ชั่วโมง จะสร้างโบสถ์กี่หลังก็ทำได้'
ลูกศิษย์ทั้งหลายนั้น แม้จะทราบว่าคาถาเงินล้านเป็นของดี แต่ไม่ค่อยจะทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ค่อยต่อเนื่อง บางคนก็มาบ่น บอกว่ามีความลำบากในการทำมาหากินมาก ฉันก็บอกคาถาเงินล้าน และพระคำข้าวเก้ามงคลให้ไปใช้
แต่เขาบอกว่าเขาภาวนาเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว
ถามว่า ..
'เทอภาวนาวันละกี่จบ?'
ลูกศิษย์บอกว่า '๑ จบ' ฉันก็อยากจะบอกว่า 'จบเห่' คนอยากรวยทำงานวันละ ๑ นาที ขนาด ๒๔ ชั่วโมง ทำ ๘ ชั่วโมง ยังไม่ค่อยจะพอกินเลย ท่าภาวนาแค่นี้ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องหวังร่ำรวยหรอก ดักดานอยูแบบเดิมเถิด อยากขึ้นที่สูงแต่ไม่ยอมก้าวเดิน ความเจริญจะมีมาแต่ใหน
จึงจะบอกให้ศาณุศิษย์ทั้งหลายไปเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้จริงจังและสม่ำเสมอ โดยให้ยึดที่ ๑๐๘ จบ เป็นหลัก เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจ ไม่ใช่แต่บ้านเราเท่านั้น เศรษฐกิจโลกก็พลอยแย่ไปด้วย ถ้าหากว่าเราอาศัยบารมีพระ ยึดท่านเป็นที่พึ่งสุดท้ายจริงๆ ทำแบบมอบหมายถวายชีวิตจริงๆ ขอยืนยันว่าทุกอย่างก็จะเป็นจริงไปด้วย
ท่านให้ภาวนาคาถาเงินล้านอย่างเดียว ตอนที่ภาวนาตามที่ท่านสั่ง ทำไปๆ เหมือนกับตัวเองดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดลมหายใจมันก็ลึกเหมือนกับเหวที่ไม่มีก้น ญาติโยมทั้งหลายจำตรงนี้ไว้ให้แม่นๆ
หากว่าภาวนาจับลงที่ศูนย์กลางกาย ถ้าตรงจุดพอเหมาะพอดี มันจะลึกลงไปเรื่อยๆ เหมือนเหวที่ไม่มีก้น แบบที่องค์พระท่านว่า
"'ให้หยุดลงตรงกลาง .. ตรงกลางลงไป .. ตรงกลางลงไป ก็จะไปได้เรื่อยๆ'"
ฉันเองมีประสบการณ์หลายครั้งแล้วว่าไม่ว่าภาวนาคาถาบทไหนก็ตาม ถ้าหากว่ามาถึงตรงจุดนี้ คาถาบทนั้นจะมีผลมาก เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนทำให้ถูกตรงนี้ ถ้าทำถูกไม่ต้องไปท่องเป็นร้อยเป็นพันจบก็ได้ เพราะว่าอารมณ์เต็มที่มันก็จะไม่เกินนั้น
องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าต้องการให้พวกเราทุกคนเข้าใจถึงวิธีในการเจริญภาวนาคาถาเงินล้านเพื่อให้เกิดผลสูงสุดที่จะพึงมีพึงได้ตามวาสนาบารมีของแต่ละคน ดังนั้นขอให้ทุกท่านตั้งกายให้ตรง แต่ไม่ใช่เกร็ง เวลาหายใจเข้า นึกถึงคาถาเงินล้านที่เราภาวนา ไหลตามลมหายใจ เข้าไปจนสุดลมหายใจของเรา ให้อยู่ตรงนั้น นั่นคือ ศูนย์กลางกาย
ให้ทุกคนขยับ โยกหน้าโยกหลัง หาความตรงพอดีๆ ให้เป็นศูนย์กลางของเรา เสร็จแล้วคำภาวนาทั้งหมดของเรา ให้กำหนดจดจ่อลงตรงนั้น โดยใช้สมาธิเพียงเบาๆ ท่านที่ทรงสมาธิในระดับใช้งานได้ จะเข้าใจตรงจุดนี้เลย แต่ถ้าหากว่าท่านที่ยังไม่เข้าใจ ให้รู้สึกเหมือนลมหายใจแตะแผ่วๆ อยู่ตรงศูนย์กลางกาย แล้วภาวนาคาถาเงินล้านของเราไปเรื่อยๆ
องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า .. ถ้าใครสามารถทำอย่างนี้ได้ต่อเนื่องกัน วันละประมาณ ๑ ชั่วโมง จะมีความคล่องตัวมาก จะทำงานใหญ่ขนาดไหน เงินทองก็จะไม่ขาดมือ ยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่เริ่มด้วยทานบารมีมาตั้งแต่อดีต ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมามากเป็นพิเศษ
ดังนั้น .. ให้ทุกคนขยับหาจุดกึ่งกลางของเราที่พอดี โดยไม่ต้องเกร็งตัวเอง กำหนดความรู้สึกทั้งหมด พร้อมลมหายใจและคาถาเงินล้านของเราให้ลงไปที่กึ่งกลาง ให้ออกมาจากกึ่งกลาง โดยให้สัมผัสเพียงเบาๆเท่านั้น ให้รักษาอารมณ์ใจอย่างนี้ไว้ และตั่งเวลา 1 ชม ทำไป จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกหมดเวลา ..
"ผู้ที่ทำงานอย่างจริงจังและตรากตรำ
ย่อมได้รับผลที่คุ้มค่าเสมอ"
#แชร์เป็นธรรมทาน
เพจ กระดานบอกบุญหล่อพระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น