เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี (เสด็จมาใหม่ ๆ ) พระนางมาคันทิยาซึ่งมีความโกรธพระศาสดา มีความประสงค์จะให้พระองค์ออกจากเมืองโกสัมพี จึงได้ว่าจ้างให้คนที่เป็นมิจฉาทิฏฐ ไม่เลื่อมใสพระรัตนตรัย ช่วยกันรุมด่าให้พระองค์เสด็จหนีไปเมืองอื่น
ครั้นยามเช้าพระศาสดาเสด็จเข้าไปในเมืองเพื่อบิณฑบาต ก็มีพวกทาสกรรมกรบ่าวไพร่ที่ได้รับค่าจ้าง ติดตามด่าว่าพระพุทธองค์ด้วยคำด่า ๑๐ ประการ ซึ่งถือว่าเป็นคำด่าที่แสบที่สุดในยุคนั้น คือ เจ้าเป็นโจร เจ้าคนพาล เจ้าคนหลง เจ้าอูฐ เจ้าโค เจ้าลา เจ้าสัตว์นรก เจ้าสัตว์เดรฉาน สุคติของเจ้าไม่มี เจ้าหวังแต่ทุคติเท่านั้น
พระอานนท์ผู้เดินตามหลังพระศาสดาทนไม่ได้ที่มีบุคคลมากล่าวล่วงเกินพระพุทธองค์ซึ่งเป็นผู้ที่ตนเคารพสูงสุดท่านจึงกราบทูลว่า
"เมืองนี้เขาด่ามากเหลือเกินพระพุทธเจ้าข้า เราไปเมืองอื่นเถิดพระพุทธเจ้าข้า"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
" ไปเมืองไหนอานนท์"
พระอานนท์ตอบว่า
"ไปเมืองที่เขาไม่ด่า พระพุทธเจ้าข้า"
พระองค์ตรัสถามว่า
"ถ้าคนในเมืองนั้นด่าอีก เราจะไปที่ไหนอานนท์"
พระอานนท์ตอบว่า
"เราก็ไปเมืองอื่นจากเมืองนั้นอีกพระพุทธเจ้าข้า"
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า
"แล้วคนในเมืองนั้นด่าอีกจะไปไหน"
พระอานนท์ตอบว่า
"ก็ไปเมืองอื่น ๆ อีกพระพุทธเจ้าข้า"
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
"เราทำอย่างนั้นไม่ควรทำใจร้อนใจ ด่วนไม่สมควรแก่สมณะ เรื่องเกิดขึ้นที่ไหนควรให้ดับที่นั่นก่อนเราค่อยไปที่อื่น
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
"อานนท์ ...
เราเป็นเช่นกับช้างที่เข้าสู่สงคราม
การอดทนต่อลูกศรที่แล่นมาจาก ๔ ทิศ
เป็นภาระของช้างที่เข้าสู่สงคราม
ฉันใด...
#การอดทนต่อถ้อยคำที่คนทุศีล (ไม่มีศีล) เป็นอันมากกล่าวแล้วเป็นภาระของเราฉันนั้น
#เราจักอดกลั้นต่อคำล่วงเกินดังช้างศึกที่อดทนต่อลูกศร
เพราะคนเป็นอันมากเป็นผู้ทุศีล
#บุคคลผู้อดกลั้นต่อคำล่วงเกินได้
#ฝึกตนดีแล้วเป็นผู้ประเสริฐในหมู่มนุษย์
การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด
เมื่อฝ่ายตรงข้ามสงบนิ่ง
การด่าอยู่แต่ฝ่ายเดียวก็ไร้ประโยชน์ ฉันนั้น
พวกปากรับจ้างด่าจนเมื่อยปาก
ก็เกิดความเบื่อหน่าย เลิกด่าไปเอง
เรื่องก็สงบลงใน ๗ วัน
เมื่อพระองค์ตรัสจบอย่างนี้ คนมากมายที่รับสินบนมาด่าตามถนน ๓ แพร่ง ๔ แพร่ง เป็นต้น เหล่านั้น ก็ได้บรรลุโสดาบัน
#เป็นคนดีเลิกด่าเป็นคนดีตั้งแต่บัดนั้นตลอดชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น