ผู้ถาม : "เอ....หลวงพ่อครับ พระมหากัสสปะ ท่านนิพพานแล้ว แต่ได้ยินดีเขาบอกว่า ศพของพระมหากัสสปะยังอยู่ที่ เมืองราชคฤห์ แล้วจะเผาได้ต่อเมื่อ พระศรีอาริย์ มาตรัสรู้ และเผาบนมือด้วย อันนี้เป็นเหตุไฉนและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ.....?"
หลวงพ่อ : "เขาลูกไหนว่า"
ผู้ถาม : "อันนี้ได้ยินจากหลายอาจารย์เขาว่ากันครับ
หลวงพ่อ : "เมืองราชคฤห์นี่มันอยู่ตรงไหนนะ.....?"
ผู้ถาม : "ดูเหมือนเมือง...พระเจ้าพิมพิสาร...ครับหลวงพ่อ"
หลวงพ่อ : "ศพของพระมหากัสสปะยังไม่ได้อยู่เมืองราชคฤห์นี่ อยู่ที่..เชียงตุง เดาส่งแล้ว"
ผู้ถาม : "อยู่ไทยนี่เองเองเหรอครับ.....?"
หลวงพ่อ :ไทยใหญ่
ผู้ถาม :"ไม่ใช่อยู่อินเดียหรือครับ.....?"
หลวงพ่อ : "ปัดโธ่....จะอยู่อินเดียตะพึดเลยนะยกยอดให้อินเดีย ตะบัน..ท่านอยู่ตรงนี้ พระมหากัสสปะท่านมีงานอยู่แถวนี้ ระหว่างเชียงตุง เชียงราย แล้วก็ประเทศ จีน ที่พระพุทธเจ้าส่งให้มาประกาศศาสนา ถ้าต่ำลงมานั้นเป็นเขตของ พระมหากัจจายนะ จากลำพูนลงมาก็เป็นเขตของพระโมคคัลลาน์ ก็ว่าตามเขต แล้วท่านก็นิพพานแถวนี้ ถ้าถามว่า "ศพของพระมหากัสสปะมีจริงไหม...?.."
ขอยืนยันว่ามีจริง...ยังอยู่ ดอกไม้ที่เขาบูชาก็ยังอยู่ ธูปกับเทียนที่เขาบูชาก็ยังอยู่ แต่ว่าเวลาปกตินี่เราเข้าไม่ได้ เพราะเขาลูกเล็กๆ สองลูกข้างหน้าต่ำ เคลื่อนมาติดกัน เมื่อปีกึ่งพุทธกาลน่ะเข้าได้ เขาลูกเล็กๆ มันขยายตัวออก เป็นเรื่องอัศจรรย์เหมือนกันนะ จนกระทั่งฝรั่งเข้าไปถ่ายภาพได้ ฉันได้ภาพที่ฝรั่งถ่าย ประมาณ ๑๐ ภาพ ในปีนั้นนะ เขาพิมพ์ขาย ไอ้ฉันน่ะไม่ได้ซื้อ เขามาให้แล้วก็เอาภาพนั้นไปให้ หลวงพ่อเล็กดู ถามว่า......."การนั่งอยู่...การเข้าสมาธิเป็นของไม่แปลก แต่ธูปกับเทียนที่เขาบูชาทำไมจึงไม่เศร้าหมอง.....ยังสด ธูปเทียนก็ยังติดอยู่" หลวงพ่อเล็ก ก็เลยบอกว่า คำอธิษฐานของพระอรหันต์ จะให้เป็นอะไรก็ได้ ใครไม่เชื่อก็ไปดู พวกที่ได้ มโนมยิทธิไปดูก็ได้นี่ ไม่ต้องรอ ให้เขาเปิด...เข้าได้
ผู้ถาม : "แล้วที่ว่าจะเผาต้องเผาบนมือพระศรีอาริย์ล่ะครับ.....?"
หลวงพ่อ :"ตามท่านว่ามา ถ้าเราไม่เชื่อเราอย่าเพิ่งตาย รอดูก่อน จนกว่าพระศรีอาริย์จะนิพพาน!!"
ผู้ถาม : "โอ้โฮ.....?"
หลวงพ่อ : "อ้าว...ถ้าพูดเวลานี้ก็เถียงกันไม่จบ บางคนว่า"ฉันไม่เชื่อหรอก เป็นพระพุทธเจ้าแล้วกฎแห่งกรรมย่อมสิ้นไป มันเป็นเช่นนั้นจริง.....!!"
บุพกรรม
หลวงพ่อ : "ตามเรื่องมีว่า....สมัยก่อนโน้น พระมหากัสสปะ ท่านเป็นช้าง รูปร่างท่านจึงใหญ่โตคล้ายช้าง แล้วพระศรีอาริย์ท่านเป็นเจ้าของ และก็มีการพนันกันว่า ช้างตัวนี้สามารถจะหยิบอะไรก็ได้ ก็บังเอิญคนพนันมันเกเร มันเอาเหล็กเผา จนแดงโชนให้อม
ที่แรกเจ้าของยอมแพ้ ยอมให้ถูกปรับดีกว่า ไม่ยอมให้ช้างหยิบ ช้างก็รักษาศักดิ์ศรี อาศัยที่รักเจ้าของก็เอางวงหยิบ หยิบได้ฝ่ายนั้นก็ต้องแพ้ แต่ช้างก็ต้องตาย เพราะอาศัยกรรมอันนี้หน่อยเดียว เวลาที่พระศรีอาริย์จะนิพพานท่านก็เอาศพพระมหากัสสปะใส่พระหัตถ์ อธิษฐานเตโชธาตุเผา เมื่อเผาแล้วก็อาศัยเหตุนี้เป็นปัจจัยพระองค์จึงนิพพาน แต่อย่าลืมนะ ไฟที่ใช้กำลังใจให้เกิดขึ้นมันไม่ร้อนหรอก ท่านจะร้อนก็ได้ ไม่ร้อนก็ได้
ผู้ถาม : "เอ....ทำไมไม่ร้อนล่ะครับ...?? "
หลวงพ่อ : "ก็เราสร้างเองนี่....ไม่ได้ใช้ไม้ขีดสร้าง มาจาก เตโชกสิณ จะให้ร้อนหรือไม่ร้อนก็ได้"
ผู้ถาม : "อ๋อ...เป็นเช่นนั้นเอง....."
จาก : หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๖ หน้าที่ ๒๑-๒๓ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
คัดลอกโดย Kiatkawin
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น