22 พฤศจิกายน 2563

หลวงพ่อไพบูลย์" ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต

แผ่นดินไม่สิ้นพระโพธิสัตว์! "หลวงพ่อไพบูลย์" ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต แม้แต่เหล่าพระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่นยังรับรอง
“ พระนิยตโพธิสัตว์ ” คือ พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว

พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) วัดอนาลโยทิพยาราม อ.เมือง จ.พะเยา ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ผู้สร้างบารมีจาก “ ศรัทธาธิกะ ” ที่ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม , หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร , หลวงปู่แว่น ธนปาโล , หลวงปู่หลวง กตปุญโญ , หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร ฯลฯ รับรอง

จากหนังสือประวัติของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่ชอบท่านบอกว่า “หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีในพระศาสนา"

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านยกเรื่องอดีตชาติของท่านกับหลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ให้ฟังว่า “ ในสมัยพระพุทธเจ้ากะกุสันโธ หลวงปู่ชอบเกิดเป็นอาจารย์ฤาษี อยู่ที่เมืองยอน ประเทศพม่า ท่านบอกในชาตินั้นเราได้ฌานสมาบัติ ๘ เหาะเหินเดินอากาศได้ ในชาติที่ท่านเกิดเป็นอาจารย์ฤาษี ที่เมืองยอน ประเทศพม่า ท่านมีลูกศิษย์ฤาษีที่ได้มาบวชพบกันในศาสนาพระพุทธเจ้าสมณโคดมองค์ปัจจุบัน มี ท่านพ่อลี ธัมมธโร , หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ , หลวงปู่จาม มหาปุญโญ , หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ฯลฯ

ในส่วนของหลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล นั้น หลวงปู่ชอบ ฐานสโม บอกหลวงพ่อไพบูลย์ท่านได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้ากะกุสันโธรับรองความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ให้กับท่าน ในชาติที่ท่านเกิดเป็นฤาษี ที่เมืองยอน ประเทศพม่า หลวงปู่ชอบท่านบอกภัทรกัปป์หน้าจะมีพระพุทธเจ้า ๑๐ พระองค์ หลวงพ่อไพบูลย์ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๘ ในอนาคตข้างหน้า”

" ฤาษีเทพบุตรโพธิสัตว์ "

ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) วัดอโศการามนี้ สมกับเป็นผู้บำเพ็ญบารมีมานาน มีความรู้อะไรลึกซึ้งหลายอย่าง หลายประการ เสียแต่สู้บุพพกรรมที่เคยฆ่ามนุษย์เมื่อคราวที่เป็น พระเจ้าอโศกมหาราช เมืองปาฏลีบุตรไม่ได้ มาชีวิตนี้ทำให้ได้รับผลอายุสั้นได้แค่ ๕๕ ปี เท่านั้น

(จากหนังสือธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ)

“ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) เพิ่นเดินธุดงค์ ไปพักรุกขมูลผานกเค้ากับพระ พอมาถึงใกล้กับผานกเค้า พักอยู่กับพวกที่ทำถนน แล้วโยมเขาเอารถไปส่งให้ถึงภูกระดึง เพิ่นบอกโยมเขาว่าจะไปหาฤาษีตนหนึ่งอยู่เชิงภู
โยมก็ว่าแถบนี้ไม่มีฤาษี แต่ก็ไปเสาะหา แต่ชาวบ้านพวกทำถนนเขาไม่รู้ภาษาคำพูดเพิ่น แต่เพิ่นก็ ไปเสาะหาไปคนเดียว จึงไปเห็นฤาษีตนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับคนเฒ่า อายุประมาณ ๗๕ ปี นุ่งห่มหนังเสือ สวมชฎาใบไม้ แต่สะอาดสะอ้านหมดจด
สอบถามกันและกันได้ความว่า อายุได้ ๒,๐๐๐ ปี แล้วอยู่บนภูเขาแถบนี้ ตั้งแต่หล่มสัก น้ำหนาว ภูกระดึง ภูเขาแถบถิ่นนี้ เป็นเทพบุตรฤาษี ถือเพศเป็นฤาษี แต่บำเพ็ญอย่างเดียวในพรตธรรม พระวินัยขององค์พระพุทธเจ้า

เป็นเทพบุตร เป็นหัวหน้าเทวดาในแถบนั้น เพิ่นว่าคราวนั้นล่ะ ที่เพิ่นไปเห็นตารุกขปติเทพบุตร ผู้เป็นผู้ควบคุมเปรตผีทั้งหมด

ตารุกขปติยังได้ฝากคำ กับท่านอาจารย์ลี มาหาผู้ข้าฯ ให้ไปโปรดเทศน์ธรรมให้เขาฟัง เดี๋ยวนี้เป็นเทพอยู่ยังรอคอยอยู่

แต่ฤาษีเทพบุตรตนนั้น บำเพ็ญบารมีมา แต่เมื่อครั้งพระอุบาลีเถรเจ้ามาอยู่จำพรรษา สร้างวัดอยู่ถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จ.เลย

ตัวเขาเป็นหัวหน้าผู้คนในแถบถิ่นนี้ บำรุงดูแลอุปัฏฐากพระอุบาลีเถรเจ้า ทุกอย่างทุกประการฟังเทศน์ฟังธรรม ทำอยู่อย่างนั้นได้ ๓ ปี

พระอุบาลีเถรเจ้า จึงได้นิพพานไป นิพพานในถ้ำผาบิ้งนั่นหล่ะ (พ.ศ.๔) ผลอานิสงส์อันนั้นทำให้ได้เป็น เทพบุตร อยู่บนดาวดึงส์ ๓๐๐ กว่าปี
เห็นว่าอยู่บนสวรรค์ ไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงได้ลงมาอยู่บนภูกระดึง ถือเพศบำเพ็ญเป็นฤาษีหนีจากนางฟ้าเทวดาทั้งหลาย

ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) เพิ่นเล่าว่า เพิ่นนั่งภาวนาอยู่แต่วัดบรมนิวาส(กรุงเทพฯ) ช่วงที่อยู่สอนผู้คนสอนกรรมฐานให้กับเจ้าคุณสมเด็จอ้วนฯ(สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อ้วน ติสโส) มองมาแต่กรุงเทพฯ
เห็นฤาษีเทพบุตรตนนี้ นั่งภาวนาอยู่บนก้อนหินชะง่อนผาอยู่บนภูกระดึง เมื่อได้โอกาสจึงไปหา เพราะหลายภพหลายชีวิต ที่ได้บำเพ็ญเป็นหมู่เป็นเพื่อน กันมา

ผู้ข้าฯ ถามว่า “ท่านอาจารย์ไปพูดคุยอะไรบ้าง ? ”

“หลายเรื่อง หลายอย่าง เรื่องกสิณ เรื่องภพชาติเกิดตายผ่านมา

เรื่องราวในชีวิตนี้ เรื่องความเป็นไปในโลก เรื่องฟ้าเรื่องฝนเรื่องของมนุษย์”

“ก็แสดงว่าเทวดาตนนั้นมีอภิญญาณพอสมควร”

“ได้อยู่ เพราะเป็นลูกศิษย์ของพระอุบาลีเถระ”

“นานไหมครับ นานหรือยัง”

เขาว่า “พ.ศ.๒, พ.ศ.๓, พ.ศ.๔”

“ผม เคยได้ยินเพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ว่าถ้ำผาบิ้งวังสะพุงเมืองเลย พระอุบาลีเถรเจ้ามาสร้างวัดแล้วนิพพานอยู่ที่นั้น ก็จริงนะซีครับ”
“จริงแน่นอน เพราะผมไปพบหลักฐานแล้ว” ท่านอาจารย์ลีตอบ
ท่าน อาจารย์ลี (ธมฺมธโร) วัดอโศการามนี้ สมกับเป็นผู้บำเพ็ญบารมีมานาน มีความรู้อะไรลึกซึ้งหลายอย่าง หลายประการ

เสียแต่สู้บุพพกรรมที่เคยฆ่ามนุษย์ เมื่อคราวที่เป็นพระเจ้าอโศกมหาราช ที่เมืองปาฏลีบุตรไม่ได้ มาชีวิตนี้ทำให้ได้รับผลอายุสั้นได้แค่ ๕๕ ปี เท่านั้น ยังเผยแพร่ธรรมะยังไม่กว้างขวาง
เรื่องการก่อสร้างเจดีย์ของเพิ่น ก็ยังไม่ทันได้สร้างได้ที่วัดอโศการาม สร้างได้แต่ที่ถ้ำพระสบาย แม่ทะ ลำปาง

หมู่พระที่เดินธุดงค์กับเพิ่นคราวนั้น ที่ไปด้วยกับเพิ่นนั้น ทำผิดทำวิบัติหลายอย่าง ผิดสัจจะก็มี ไม่เชื่อฟังคำของเพิ่น ใจไม่ลงให้เพิ่น
เทวดาจึงได้เอาฝนเอาฟ้ามาลงโทษให้สำนึก เขาเอาทั้งลมทั้งฟ้าผ่า ทั้งฝนมาให้ ถึงขนาดนั้นเขายังใส่โทษท่านอาจารย์ลี(ธมฺมธโร) อีกว่า ใช้ฤทธิ์บัลดาลให้เขาได้รับความลำบาก เมื่อไปถึงวัดบรมนิวาสแล้วก็ยังหาเรื่องหาความใส่อย่างนั้น อย่างนี้ จนที่สุดนอนหลับตายไป

ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) นี้เทวดาก็รัก มนุษย์ก็นิยม ลูกศิษย์ของเพิ่นครูอาจารย์มั่น(ภูริทตฺโต) ในยุคสมัยนั้นก็มีท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) ท่านอาจารย์ชอบ(ฐานสโม) ที่เทวดารัก เทวดาเข้าหา เข้าขอฟังเทศน์ธรรม
ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) นั้นเก่งทางปราบทิฐิของพวกนาคพวกภูมิ ภูมิต่าง ๆ
ต่อมาอีกในภายหลัง ท่านอาจารย์แหวน (สุจิณโณ) ผู้คนทั่วประเทศก็กราบไหว้บูชา เคารพนับถือ นับแต่พระเจ้าอยู่หัวจนชาวบ้าน
เทพบุตรนรสีหะตนที่อยู่ภูกระดึง ที่ท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) ไปพบปะนั้น เขาปรารถนาต้องการที่จะเป็นพระพุทธเจ้า นับจากพระศรีอาริย์ไปเป็นลำดับที่ ๘ (พระเตยยะพุทธเจ้า)

เป็นองค์ที่ ๘ ในอนาคตวงศ์ (พระเตยยะพุทธเจ้า) เทพบุตรตนนี้เป็นมิตรเป็นหมู่กับท่านอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) มาหลายภพหลายชาติ ”

ส่วนทางด้าน “ตารุกขปติเทพบุตร” ชาวบ้านเขาเรียกว่า “ปู่หลุบ” หรือ “ปู่ตาหลุบ” หรือ “เจ้าพ่อปู่หลุบ” เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลพวกผีและเปรตที่พ้นจากนรกขึ้นมาแล้ว

เรื่องของ “ตารุกขปติ” ตนนี้นั้น ผู้ข้าฯ พิจารณาแล้วว่า..
“แต่เมื่อครั้งกัปป์ศาสนาของพระพุทธเจ้าเวสภู ตาแกเป็นคนทุกข์ยากไร้ทำกสิกรรมเลี้ยงชีวิตในเขตวังสะพุง (อ.วังสะพุง จ.เลย)
ได้ลูก ๗ คน เป็นชาย ๔ คน เป็นหญิง ๓ คน แต่เมื่อลูกเกิดมาแล้วพ้นจากท้องของแม่แล้วผีก็มาเบียดเบียนจนถึงแก่ความตายเกิดมาแล้วก็ตาย ออกมาแล้วก็ตาย ตายหมดทั้ง ๗ คน

มาสุดท้ายผู้เป็นเมียก็ตายไปอีก ตัวคนเฒ่าก็เป็นทุกข์เรื่องลูกตายหนีเสีย เมียตายหนีจาก เพราะพวกผีทั้งหลายโกรธแค้นให้ว่า
คนเฒ่าผู้นี้บุกรุกแผ้วถางป่าทำลายบ้านเรือนของพวกตน ลูกเมียของผีพวกนั้นถูกไม้ทับตาย ผีก็มาแก้แค้นคืน
มีพระปัจเจกก์พุทธเจ้ามาแต่ถ้ำต่างๆ ตามละแวกภูเขาแถบนั้นมาบิณฑบาตกับคนเฒ่า

คนเฒ่าก็เอาแตงโม แตงไทย แตงอื่นๆ ใส่บาตรถวายพระปัจเจกก์ ทำอยู่อย่างนั้นจนตลอดชีวิต ตั้งความหวังปรารถนาว่า...
“ ขอให้ได้เป็นเจ้าผู้ปกครองผีทั้งหลายในโลกนี้ ”
เมื่อตายจากชีวิตนั้นก็สมหวังทันที ได้เป็นหัวหน้าเทพผู้ปกครองดูแลพวกผีทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าผีว่าเปรต

หากพ้นจากนรกมาแล้ว ก็ให้ “ตารุกขปติ” ผู้นี้เป็นผู้ดูแลควบคุมมีบัญชี
นรกสัตว์ในนรก ท่านพญายม เป็นผู้ดูแล
สวรรค์ ท้าวฐตรถ เป็นผู้ดูแล
นาค ท้าววิรูปักข เป็นผู้ดูแล
ครุฑ ท้าววิรุฬโห เป็นผู้ดูแล
ยักษ์ ท้าวเวสสุวัณ เป็นผู้ดูแล

ปราสาทวิมานของตารุกขตนนี้อยู่ผานกเค้า แต่ที่ทำการของพวกเขาอยู่เขตภูผาม่าน ตารุกขปติเจ้าแห่งผีตนนี้มีเมีย ๒ คน มีลูกสาว ๔ คน เป็นรูปเทวดาพวกผีทั้งหลายในโลกกลัวเกรงเป็นที่สุด...

ข้อมูลเพิ่มจากธรรมประวัติองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม (วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของภาพถ่ายนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...