บางคน - รวมทั้งผมเองอาจจะรู้สึกน่าเบื่อที่จะต้องมาคุยเรื่องเก่าประเภทว่า Starseed คืออะไร ยังไง มาจากไหน เพราะได้คุยเรื่องทำนองนี้มาบ่อยๆมากและนานมากสัก 20 ปีหรือมากกว่ามาแล้วเห็นจะได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่จริงเป็นเรื่องเก่าๆ จำเจ ที่มีมานานแล้ว เก่าขนาดไหนเหรอครับ ก็เก่าขนาดนักเขียนอาวุโสอย่างท่านอดีตนายกรัฐมนตรีไทย มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ท่านเคยนำมาแต่งเป็นนิยายสนุกสนานเรื่อง "กาเหว่าที่บางเพลง" มาแล้ว สร้างเป็นหนังก็สร้างมาแล้ว แม้ว่าจะเก่า แต่เรื่องนี้ก็ยังใหม่และน่าตื่นเต้น สำหรับคนที่เพิ่งรู้จัก รู้แล้วก็พากันอยากเป็น ตกเย็นก็พากันไปนั่งมองฟ้า บอกตนเองด้วยความภูมิใจว่า "ฉันนี่แหละ Starseed ตัวจริง" เพราะเป็นคนชอบมองท้องฟ้า
Starseed - แปลว่าเมล็ดพันธุ์จากดวงดาว หมายถึงเหล่าจิตวิญญาณจากดาวอื่นที่พากันมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ มาเกิดเป็นมนุษย์ในลักษณะของการเป็นอาสาสมัครเพื่อปฏิบัติภาระกิจต่างๆ ในการช่วยนำทางแก่ชาวโลกผู้มีอารยธรรมต่ำกว่าให้ได้รับการพัฒนาสู่การเป็นจิตวิญญาณชั้นสูงผู้มีอารยธรรมในจักรวาล โดยมีการมาเกิดเป็นมนุษย์ในช่วงต่างๆเป็นรุ่นๆไป
รุ่นแรกที่มาถิอกำเนิด เป็นพวกที่เกิดในราวปี1950 เป็นต้นมา เราเรียกพวกเขาว่า Indigo ตามสีของออร่าของพวกเขาซึ่งเป็นสี Indigo หรือสีน้ำเงินคล้ำ (สีเดียวกับจักระที่ 6) พวกเขามาเพื่อถากถาง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ขจัดอุปสรรคต่างๆเพื่อการพัฒนาในระดับสูงต่อไป คนเหล่านี้จึงมีลักษณะเหมือนเป็นนักรบ มีความอดทน สูงในการทำงาน ไม่ยอมแพ้ ใจสู้ ทนความอยุติธรรมไม่ได้
รุ่นต่อๆมา เป็น Starseed ที่มาทำภาระกิจด้านต่างๆได้แก่ รุ่น crystal, Rainbow, platinum Starseed เป็นต้น ซึ่งยังคงเป็นการเรียกตามสีออร่าของพวกเขาเหล่านั้น
โดยทั่วๆไป Starseed จะมีความสามารถเหนือค่าเฉลี่ยของคนทั่วๆไป พวกเขามีภาระกิจหลักร่วมกันประการหนึ่งคือ มาเพื่อเป็นน้ำดีให้กับโลก หมายถึงมาเป็นคนดีในหมู่คนไม่ดีในโลกเพื่อรักษาสภาวะสมดุลย์แห่งพลังงาน อย่างไรก็ตาม Starseed แต่ละรุ่นมักมีภาระกิจพิเศษมากกว่านั้นเพิ่มเติมอีกเช่น พวกเขามีความสามารถพิเศษในการบำบัดโดยไม่มีใครสอน มีพลังจิตสูง บางคนเห็นอดีต รู้อนาคต มีหูทิพย์ ตาทิพย์ บางคนไม่มีความสามารถพิเศษพวกนี้แต่หัวใจของเขาเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่พร้อมจะมอบให้กับโลก
Starseed ที่แท้จะมีสิ่งที่เรียกว่า Chip ติดตัวมาแต่กำเนิด chip นี้คือเครื่องมือที่ช่วยให้เขาสามารถรับพลัง ติดต่อ รับองค์ความรู้จากดาวต้นกำเนิดของเขาได้และยังช่วยให้เขาหาทางกลับบ้านได้เมื่อสิ้นภาระกิจ Chip นี้จะโคจรไปในร่างกายของเจ้าของตามการโคจรของดวงดาวในจักรวาล บางครั้งเจ้าของจะมีความเจ็บปวดในร่างกายที่แพทย์หาสาเหตุไม่พบเพราะการมี chip ในร่างกายก่อให้เกิดการระคายเคืองกับเนื้อเยื่อขึ้นมา chip จึงมีการเปลี่ยนตำแหน่งในร่างกายเสมอ ไม่อยู่ที่เดียว
มี chip อีกประเภทหนึ่งที่คล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่ chip ของ starseed เกิดขึ้นจากการที่ชาวต่างดาว นำ chip เหล่านี้หว่านกระจายลงในโลกเพื่อการปรับระดับทางจิตวิญญาณแก่ชาวโลกในลักษณะของการหว่านแห เป็นลักษณะแบบ random หรือบางครั้งก็เกิดจากการที่ชาวโลกเองผู้มีหน้าที่ติดต่อกับชาวต่างดาวเป็นผู้ขอมาติดตั้งให้ใครบางคนเป็นการเฉพาะเพื่อเพิ่มความสามารถทางจิต chip ประเภทนี้ จะเป็นประโยชน์เฉพาะผู้มีความพร้อม คือมีการพัฒนาทางจิตแล้วระดับหนึ่ง จึงสามารถรับมาแล้วใช้ประโยชน์ได้ หลายคนรับมาแล้ว เกิดความขัดแย้งขึ้นในกายและจิต มีความทุกข์ทรมาน เจ็บป่วย อยากจะเอาออกก็เอาออกไม่เป็น Chip ของคนเหล่านี้ ไม่ใช่ chip ของผู้เป็น starseed แต่หลายคนเข้าใจว่าตนเป็นและชอบเป็น starseed เพราะรู้สึกว่าตนมีความพิเศษ เป็นคนสำคัญ
มีคนอีกประเภทหนึ่งที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น starseed เหมือนกัน คนเหล่านี้มาในลักษณะของการผสมข้ามพันธุ์โดยตรงระหว่างชาวต่างดาวกับมนุษย์ชาวโลก เราเรียกเขาว่า Alien Hybrid ซึ่งปัจจุบันเราจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ ดังเช่นเด็กชายชาวจีนผู้เป็นเด็กเอเชียแต่มีนัยตาสีฟ้าและมีความสามารถพิเศษในการมองเห็นในเวลากลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยได้อย่างชัดเจนเหมือนสัตว์ในตระกูลแมว เราอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเด็กผิวดำที่มีผมทอง ตาสีฟ้า ซึ่งเชื่อกันว่าเขาเป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์ผิวดำกับชาวต่างดาว Nordic เป็นต้น
ฟังๆดูแล้ว มนุษย์ก็ชักจะมีลักษณะคล้ายๆกับพวก Mutant ในภาพยนต์ X-Men เข้าไปทุกทีแล้ว แต่นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่ภาพยนต์
สิ่งที่อยากจะบอกทุกคนในที่นี้คือ เราไม่จำเป็นต้องเป็น starseed เราก็สามารถทำความดีให้กับโลกได้ เราไม่ต้องมีความสามารถพิเศษอะไรอย่างใครเขาก็ได้เพราะความสามารถพิเศษที่ทุกคนมีคือความสามารถในการทำความดี อย่าอยากเป็น starseed เพียงเพราะเราอยาก"ฟู"
คนที่เป็น ก็เป็นเพราะเขาเป็น คนที่ไม่ใช่ ก็คือ ไม่ใช่ แต่ทั้งคนที่ใช่และไม่ใช่ เขาสามารถทำความดีและเป็นคนดีได้เท่าๆกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น