#หลวงพ่อปาน ท่านก็สอนไว้เสมอว่า...
"เรื่องของขันธ์ ๕ นั้น ลูกเอ๋ยจงอย่าสนใจมันมากนัก ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะว่าขันธ์ ๕ มันก็เป็นขันธ์ ๕
ที่เรียกว่าขันธ์ ๕ ก็เพราะว่าขันธ์ ๕ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่มันนำมาด้วยก็คือ ความแก่ ความทรุดโทรม ความป่วยไข้ไม่สบายความทุกข์และอาการพลัดพราก
จากของรักของชอบใจ ประสบกับอารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนาและมีความตายไปในที่สุด"
ท่านสอนแบบนี้ อาตมายังจำได้ บอกว่าก่อนที่จะภาวนากรรมฐานบทใดก็ตาม ควรพิจารณาขันธ์ ๕ เห็นว่าเป็น..
#อนิจจัง คือความไม่เที่ยง #ทุกขัง เป็นทุกข์ #อนัตตา มันสลายตัว ถ้าเราเกิดมาเป็นคน จงอย่าเมาในความเป็นคน จงคิดว่าเราจะตายเป็นผีอยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องความตายนี้ไม่ต้องมีใครมาบันดาลให้เราตาย เราก็ตายของเราเองได้ สิ่งที่หลวงพ่อปานรักที่สุดนั่นก็คือ #การเจริญสมถกรรมฐานวิปัสสนากรรมฐาน
อาตมาเองก็ทรงความดีประเภทนี้ได้
อย่าง งูๆ ปลาๆ แต่ว่าเป็นงูตาย ปลาตาย
มีความรู้แค่หางอึ่ง จึงพยายามสอนพุทธ
บริษัทตามที่ความรู้จะพึงมีและอาศัยบุญ
บารมีขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรม
ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสำคัญ
จึงได้เต็มใจสอนบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านที่มีความประสงค์ จิตจำนงก็มีอยู่เพียงว่ามีความรู้แค่ไหนก็สอนแค่นั้นไม่ทำตนเข้าไปวัดบุญบารมีขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลวงพ่อปานท่านสอนไว้ บอกว่า
" #จงตั้งใจคิดไว้เสมอว่าเรายังดีไม่เท่าพระพุทธเจ้าและ #ความดีพระพุทธเจ้าเหนือเราหลายแสนล้านซึ่งเป็นความดีของพระองค์"
#การปฏิบัติ
อันดับแรกเมื่ออาตมาเรียน หลวงพ่อปานท่านสอนทุกคนให้ขึ้นวิปัสสนาญาณก่อน ท่านบอกว่า...
อันดับแรกกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกนี่เป็น #สมถะ
หลังจากนั้นก่อนภาวนาให้ #พิจารณาร่างกาย ว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันเป็น อนิจจัง เป็นของไม่เที่ยง ทุกขัง มีความทุกข์ อนัตตามีความตายไปในที่สุดและไม่ใช่ว่าจนคล่อง
ให้มองเห็นทุกข์จริงๆ ว่าร่างกายมีทุกข์อย่างไร ทำไมมันจึงทุกข์ ความหิวทุกข์ ความกระหายทุกข์ ความป่วยไข้ทุกข์
ปวดอุจจาระปัสสาวะเป็นทุกข์ พลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ ความตายจะเข้ามาถึงก็เป็นทุกข์
มันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง แล้วมันก็เป็นทุกข์ แล้วต่อไป อนัตตา เห็นว่าร่างกายต้องตายแน่อย่างนี้ เป็น #วิปัสสนาญาณ
ต่อจากนั้นท่านก็ให้ภาวนา คำภาวนาท่านก็สอนแค่ "พุทโธ"
ให้ตั้งใจกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึกว่า " #พุท"
หายใจออกนึกว่า " #โธ"
ท่านสอนนี้เป็นของใหญ่มาก คือ #พุทโธ
เป็นชื่อของพระพุทธเจ้า
จากนั้นไปถ้าใครต้องการใช้ทางวิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทาญาณ ก็ต้องหาเอาเอง อันนี้ท่านไม่สอน
หลวงพ่อปานนะ ด้านวิปัสสนาญาณนี้
ท่านตั้งอกตั้งใจสอนเฉพาะ #สักกายทิฏฐิ อย่างอื่นท่านสอนแต่ไม่เน้น เน้นสักกายทิฏฐิเป็นใหญ่
ให้มีความเข้าใจ ร่างกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา พอทำสมถะกับวิปัสสนาข้อนี้ควบกัน จิตใจก็สดใส มีอารมณ์สงบ
วิชชาสามก็ดี อภิญญาก็ดี ถ้าเรายังไม่ได้ เราก็อยากได้ ดิ้นรนอยากจะได้ พอได้แล้วก็เบื่อ มันไม่รู้จะไปไหน สวรรค์
พรหม นรก ก็มีวงแคบเที่ยวไปเที่ยวมา
มันก็แค่นั้นแหละ เราไปจบกันดินแดน
พระนิพพาน พอไปถึงพระนิพพานแล้วก็หมดอยาก ความต้องการอยากไปไหน
อีกไม่มี พอถึงนิพพานดินแดนที่สวยที่สุดแล้วอารมณ์ก็จบ
ที่มา
#พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดจันทาราม(ท่าซุง)จ.อุทัยธานี
📖: พ่อสอนลูก หน้า ๑๒๒-๑๒๓
📝: Moddam Thammawong
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น