การทำวิปัสสนา ลัดสั้น. ให้ตาญานอยู่ข้างบน ไม่ไปยุ่งกับจิต เพราะแต่ละฐานจิต มีทุกข์ จึงยึดติดไม่ได้ ญานข้างบน เป็นสติมหาสติ รู้ทันจิตทั้งหมด. เป็นปัญญา ไม่ไปหลงอยู่ในจิตที่ปรุงแต่ง.
......... ตาญาณ..คือ ตัวรู้. อยู่ข้างบน ในศรีษะ เมื่อญานไม่ไปอยู่ในจิต อุปทานขันธ์ก็ไม่เกิด ตาญาน..ได้เห็น ทุกข์กาย- ทุกข์จิต- ทุกข์อุปปาทาน ( รู้และว่างอยู่อย่างเดียว.)
ให้ตัวรู้.ตาญาน.อยู่ข้างบน แล้ว เจริญสติปัฏฐาน ดูกายที่ยืน ดูกระดูกยืน ดูเป็นส่วนๆไป จาก เท้า ขา ขึ้นมา ตัว แขน หัว ดูกลับไปกลับมา ดูซี่โคลง กระดูกนี้เป็นโคลงสร้าง ให้ตัวร่างนี้อยู่ได้
…… ต่อไปให้ดูเนื้อที่ห่อหุ้มกระดูก มีเนื้อ เส้นเอ็น มีหนังหุ้มเนื้อ ดูย้อนไป ย้อนมา จะเห็นว่าร่างกายนี้ไม่มีอะไร
........ต่อไปมาดูความรู้สึกต่อ ความรูสึกกายนี้โยกไปมา โยกซ้าย ขวา บังคับไม่ได้ เป็นความรูสึก สบายบ้าง ไม่สบายบ้าง
.......จะเห็นว่า.. กายก็ไม่เที่ยง เวทนาก็ไม่เที่ยง จิตและอารมณ์ทั้งหลายก็ไม่เที่ยง สิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไปยึดเอาไม่ได้เลย สิ่งที่เกิด ย่อมดับทั้งหมด
....สิ่งที่เป็นทุกข์ทั้งหมดนั้นไม่มีตัวตน. ญานรู้ทั้งหมดก็ไม่มีตัวตน.
....เมื่อ..พิจารนาเห็นความเบื่อหน่าย วางไปเรื่อยๆ จนปัญญาญาน จนว่าง ไม่มีตัวตน เป็นอนัตตาเกิดเป็นวิมุติหลุดพ้น จนถึงพระนิพพาน
***…. ญานรู้นี้บริสุทธิ อยู่ข้างบน มันเห็นญาน..ที่ไปเห็นจิตในอารมณ์ต่างๆ แต่ไม่เข้าไปร่วมด้วย เอาตาญาน...มารู้-เห็นจิต,กาย,เวทนา,ธรรม ...ญานของพระอริยะนั้น รู้เห็นแล้วปล่อยวาง ปล่อยวางแล้วไม่ลังเล เพื่อพ้นทุกข์อย่างเดียว ส่วน ญานของปุถุชน เข้าไปยึดทุกอย่าง แต่ไม่ได้อะไรจากสิ่งที่ยึดนั้น..
***...จะ เดิน ยืน นั่ง ให้เอาญานรู้อยู่ข้างบน เห็นกายเดิน ยืน นั่ง ไป ดูความรู้สึก เพราะตัวรู้..ไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา ...ส่วนสิ่งที่ถูกรู้...ก็ไม่มีตัวตน เป็นอนัตตา …แล้วพิจารณา ว่ากายนี้ ไม่เที่ยงบ้าง เป็นทุกข์บ้าง เป็นอนัตตาบ้าง ..เมื่อเราเห็นว่าขันธ์ ๕ มันไม่มีอยู่จริง ความยึดมั่นอุปทานจึงลดลง ความทุกข์ก็ลดลง
….เมื่อญานรู้เห็นชัด ญานก็ปล่อยวางจนพ้นทุกข์ ญานผู้รู้เข้าถึงอนัตตา มีแต่ญานผู้รู้และผู้ถูกรู้. ญานใสบริสุทธิ์ดีแล้ว มีแต่ธาตุ ญานก็เป็นธาตุ สิ่งที่ถูกรู้ก็เป็นธาตุ ทั้งหมดนี้ไปสู่ความดับทั้งสิ้น
ที่มา
มโนธาตุ โพธิญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น