ท่านสาธุชนคนที่มีเวลาน้อย เพราะต้อง
ประกอบอาชีพ ถ้าต้องการเข้าถึง
#พระพุทธเจ้า #พระธรรม #พระอริยสงฆ์ เป็นปกติ ที่เรียกกันว่า
#เจริญกรรมฐานเป็นพุทธานุสสติ
#ธัมมานุสสติ #สังฆานุสสติ"
#ถ้าจะหาเวลาไปนั่งกรรมฐานก็ทำได้ยากเพราะเวลาว่างมีน้อย #ให้ทำตามนี้จะมีผลสมบูรณ์แน่นอน และไม่เสียเวลาประกอบการงาน ตายแล้วรับรองไม่ลงนรกแน่
🚩🚩เจริญพุทธานุสสติแบบง่าย ๆ
#ให้จัดของบูชาพระพุทธรูปทุกวัน ที่ท่านเรียกว่า #ถวายข้าวพระพุทธรูป"
ของที่ถวายก็ไม่จำเป็นต้องหามาเป็นพิเศษเอาอาหารเท่าที่มีอยู่ หรือผลไม้ที่หาได้ง่ายเวลาเช้าหรือตอนสายก็ได้ ให้นำของที่หาได้ถวายพระพุทธรูปที่บ้าน ทำเป็นประจำวัน
🙏🙏คำกล่าวถวายข้าวพระพุทธรูป
เวลาถวายคิดในใจ หรือว่าออกเสียงก็ได้ดังนี้
#ข้าพระพุทธเจ้า #ขอถวายข้าว #แกง
#และน้ำแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า #เพื่อเป็นการบูชาพระคุณ #ขอผลบุญนี้ #จงเป็นปัจจัยให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด"
#เวลาถวายให้ตั้งใจดูภาพพระพุทธรูปด้วยความเคารพ #และจดจำรูปของท่านไว้ #ตั้งใจทำอย่างนี้ทุกวัน #อารมณ์ใจจะมีความคิดถึงและห่วงใยในพระพุทธรูป #จะคิดเสมอว่าวันนี้เรามีของอย่างนี้ถวายท่าน
#วันพรุ่งนี้เราจะหาอะไรถวายท่าน
การทำและคิดอย่างนี้เป็นปกติ ไม่จำเป็น
ต้องคิดทุกวัน เมื่อจิตมีอารมณ์ว่างจากงานอื่น จิตจะคิดขึ้นมาเอง และเราก็ห่วงการถวาย ของแก่ท่านทุกวัน การทำอย่างนี้จนมีอารมณ์ชิน ถึงเวลาทนทอดทิ้งไม่ไหว ต้องหาของเท่าที่จะพึงหาได้ถวายท่าน อารมณ์ใจอย่างนี้ท่าน
เรียกว่า #มีฌานในพุทธานุสสติกรรมฐาน เป็นมหากุศลใหญ่ ดีกว่ากำลังใจของ #มัฏฐกุณฑลีเทพบุตร ตายเมื่อไรไปสวรรค์ มื่อนั้น
🙏🙏เจริญธัมมานุสสติแบบง่าย ๆ
ท่านให้ทำดังนี้ #ตั้งใจบูชาพระ #และสวดมนต์เป็นประจำเวลา #จะวันละหนึ่งหรือสองครั้ง หรือกี่ครั้งก็ได้ กำหนดเวลาไว้ #ถ้าถึงเวลานั้นต้องบูชาพระและสวดมนต์
#การสวดมนต์ก็ไม่ต้องสวดมาก
ขอให้สวดตามที่จะพึ่งทำได้ เช่น อิติปี โส ฯลฯเป็นต้น เท่านี้ก็มีบุญเหลือหลายแล้ว เพราะบท อิติปิ โส พรรณนาความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ครบถ้วน หรือถ้าสวดมนต์ไม่ได้เลย ก็บูชาแบบสั้นๆ แต่มีผลดีครบ
ถ้วน เช่นตั้งนะโม ๓ จบ แล้วว่า
"พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
"ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ"
"สังฆัง สรณัง คัจฉามิ"
แปลเป็นภาษาไทยว่า
" ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง
เพียงเท่านี้ก็ดี มีอานิสงส์มากมาย
เวลาบูชา ตั้งใจจำภาพพระพุทธรูป แล้ว
ตั้งใจว่าตามที่กล่าวมาแล้วด้วยความตั้งใจจริง ทำให้ชิน จะทำเวลาไหนก็ได้ ถ้าเหนื่อย หรืออ่อนเพลียมาก นั่งบูชาไม่ไหวนอนยกมือไหว้ แล้วตั้งใจคิดตามที่กล่าวมาแล้ว
ถ้าอยู่ในระหว่างการเดินทาง เมื่อถึงเวลา
บูชาพระ แล้วก็คิดในใจตามที่ปฏิบัติมา ถ้าทำอย่างนี้เป็นอารมณ์ชิน ถึงเวลาถ้าไม่ได้ทำไม่สบายใจ หรือถ้ามีเทปบันทึกเสียงธรรม เวลานอนฟังเสียงธรรมที่ชอบใจ หรือบันทึกเสียงพระสวดมนต์ไว้ ตั้งใจฟังก่อนหลับเป็นปกติ อารมณ์ใจขนาดนี้ท่านว่า มีฌานในธัมมานุสสติกรรมฐาน บุญใหญ่มาก ตายแล้วลงนรกไม่ได้ เกิดใหม่เป็นคนฉลาด เพราะมีปัญญามาก
🙏🙏เจริญสังฆานุสสติกรรมฐานแบบง่ายๆ
การเจริญ สังฆานุสสติกรรมฐาน แบบง่ายๆนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ท่านสอนไว้แล้วพร้อมกับ "จาคานุสสติกรรมฐาน" และ ทานบารมี ท่านให้ทำดังนี้
เมื่อถึงเวลากลางคืนท่านให้สวด คาถา
วิระทะโย ๑ จบ พร้อมกับเอาข้าวสารหรือข้าวเปลือก ๑ จอก หรือขัน หรือถ้วยเล็กๆก็ได้ ใส่อะไรก็ได้ เพื่อเก็บไว้เพื่อถวายพระ เมื่อรวบรวมได้มากพอควร พร้อมกันนั้นให้ว่า คาถาวิระทะโย ๑ จบ คาถานี้เป็นคาถามหาลาภ ทำให้หากินคล่อง จำกัดความยากจนเข็ญใจ ถ้าทำจนชินกำลังใจทรงตัวที่เรียก
ว่า "เป็นสมาธิ" จะมีความเป็นอยู่ดีมาก หรือ ตอนเช้าถ้ามีเวลาพอ มีพระมาบิณฑบาต ให้ใส่บาตรพระตามกำลังที่จะใส่ได้เป็นประจำ ก่อนใส่บาตรให้ว่า คาถาวิระทะโย ๑ จบ
การที่ท่านให้ทำอย่างนี้ ตามคำอธิบายของท่าน ท่านบอกว่าเพื่อให้มีการหาเลี้ยงชีพคล่องตัว ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่เนื้อแท้แล้วผลที่ตามมานั้น ท่านมีความฉลาดมาก เพราะเป็นพระผู้ทรงฌาน ส่วนวิปัสสนาญาณท่านถึงไหน อาตมาไม่ทราบได้ เพราะกำลังใจท่านสูงและละเอียดมาก ท่านดีกว่าอาตมามากมาย
เทียบกันไม่ได้เลย ผลการแนะนำของท่าน นอกจากจะมีผลในการคล่องตัวในการครองชีพแล้วก็เป็น
"สังฆานุสสติกรรมฐาน" โดยตรง เพราะ
จิตคิดถึงพระสงฆ์เป็นปกติ และคิดถึงการถวายของพระ มีการใส่บาตร หรือเตรียมข้าวใส่บาตรเวลากลางคืนเป็น
"จาคานุสสติกรรมฐาน"
จะใช้ข้าวหรือไม่มีข้าวใช้เงินแทนก็ได้ จะใส่ด้วยเงินมากน้อยก็สุดแล้วแต่จะพึงมี เพียงหนึ่งหรือสองสตางค์ก็ได้ ถ้ามีทรัพย์น้อย
ท่านที่คิดจะใช้เงินแทน ถ้าบังเอิญวันไหนไม่มีเงิน จะใช้เป็นผลไม้ หรืออะไรแทนก็ได้ ที่บริโภคได้ หรือใช้เป็นประโยชน์ได้ ที่มีราคาไม่มากและไม่เดือดร้อน แทนเงินหรือข้าวก็ได้ เพื่อเอาไว้ถวายพระแทนเงินหรือข้าว เมื่อ
จัดไว้เพื่อถวายแล้วตอนนี้เป็น ทานบารมี
🚩🚩ทานบารมีนี้เป็นปัจจัยให้มีลาภมาก
ถ้าหากบางท่านที่มีฐานะไม่สะดวกในการจัดหาข้าว หรือเงินใส่บาตรประจำวัน ให้ปลูกต้นพริก มะเขือ หรือฟัก แฟง แตง น้ำเต้า อะไรก็ได้ที่กินได้ สักต้นหรือสองต้น โดยคิดในใจและตั้งใจแน่วแน่ว่า ถ้ามีผลขึ้นมาเมื่อไร ผลจากการปลูกนี้เราจะไม่บริโภคเอง เราจะเอาไปถวายพระเพื่อทำเป็นอาหาร ทุกวันที่เรารดน้ำพรวนดินหรือเห็นต้นพืชนั้น เราก็คิด
ว่าต้นนี้มีผลเราจะถวายพระ ความรู้สึกประจำวันอย่างนี้ท่านเรียกว่า "สังฆานุสสติกรรมฐาน"
ถ้าคิดทุกวันเมื่อถึงเวลาจะทำ หรือคิดเตรียมก่อนทำเป็นประจำวัน ท่านถือว่า เป็นฌาน ใน สังฆานุสสติกรรมฐาน
ที่มา
🖊️📖หนังสือธัมมวิโมกข์ ปีทีี ๒๘ ฉบับที่๓๐๙ ธันวาคม ๒๕๔๙ หน้าที่๕๕~๕๗
🙏🙏หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
🖊️นภา อิน 🙏🙏
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น