เมื่อครั้งที่พระเจ้าตากสินตั้งค่ายอยู่ในป่า ครั้นได้เวลาดึกสงัด มีพระภิกษุลึกลับรูปหนึ่งเดินเข้ามาหาถึงที่ประทับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเดินฝ่าทหารคุ้มกันมาได้เช่นนี้
สมเด็จพระเจ้าตากสินตรัสถามพระภิกษุรูปนั้นว่า
“ท่านเข้ามาได้อย่างไร ?”
พระลึกลับตอบว่า “เดินเข้ามา”
พระเจ้าตากถามว่า “แล้วทหารไม่เห็นท่านดอกหรือ ?”
พระลึกลับรูปนั้นตอบว่า “ไม่ทราบ”
พระเจ้าตากคิดในพระทัยว่าจะสั่งลงโทษทหารยาม
“อย่ามองความผิดผู้อื่น ให้มองความผิดตัวเองดีกว่า”
คำพูดของพระลึกลับนั้น ทำให้พระเจ้าตากแปลกพระทัยยิ่งนัก พระรูปนี้สามารถล่วงรู้ความคิดในพระทัยของพระองค์ได้อย่างไร ?
จากนั้นพระลึกลับรูปดังกล่าวก็แสดง “อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์” คือ เทศนาโปรดใจความว่า
“มหาบพิตรทำลายชีวิตคนมานักต่อนัก ฆ่าคนมามากต่อมาก มือทั้งสองเปื้อนเลือด การกระทำเหล่านี้เป็นบาปหนัก แม้ว่าจะลาจากโลกนี้ไปแล้วย่อมมีนรกที่ไปเป็นแน่แท้”
พระเจ้าตากจึงตอบว่า “ที่กระผมทำไปเพราะเป็นหน้าที่ในการปกป้องแผ่นดิน”
แล้วพระลึกลับรูปนั้นท่านก็ตอบกลับมาว่า “มาบัดนี้มหาบพิตร ก็ได้ทำหน้าที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว มหาบพิตรเกิดมาเพื่อกู้ชาติ หน้าที่นี้ก็ลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ส่วนการปกป้องชาตินั้นเป็นหน้าที่ของผู้อื่น สมควรให้เขามาทำแทน ขอมหาบพิตรอย่าจับดาบอีกเลย อาตมาขอบิณฑบาตดาบจากมหาบพิตร”
“แล้วเหตุใดกระผมจึงต้องทำเช่นนั้น ?”
“ทำไปเพื่อเป็นการตัดความหลงในวัฏสงสาร เพราะหากพระองค์ต้องรับภาระในการปกครองบ้านเมือง ก็รังแต่จะสร้างกรรมน้อยใหญ่ผูกมัดให้เกิดชาติภพ หลงวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารอย่างไม่รู้จักจบสิ้น จะบังเกิดแต่ความทุกข์มีชาติ ชรา มรณะเป็นต้น อาตมาทราบดีว่ามหาบพิตรได้ทำบุญมานับชาติไม่ถ้วน มีวาสนาจะบรรลุธรรมชั้นสูงในบวรพระพุทธศาสนา อาตมาจึงได้มาโปรดพระองค์เป็นการปิดทางไปสู่อบายภูมิ ให้พระองค์รับรู้แนวทางแห่งมรรคผลเพื่อตัดสังสารวัฏอันทรมานยืดยาวนี้ไปเสีย”
หลวงพ่อจรัญท่านว่า ด้วยการสนทนาเพียงเท่านี้ สมเด็จพระเจ้าตากสินก็เกิดสติปัญญาขึ้นมา ล่วงรู้ว่าพระภิกษุลึกลับที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหาใช่พระภิกษุธรรมสามัญไม่ แต่ต้องเป็นพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวิเศษจึงสามารถล่วงรู้วาระจิตทายทักดักใจได้ เพียงการเทศนาแต่เพียงน้อยนิด ก็ทำให้เกิดศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาได้อย่างลึกซึ้ง
พระภิกษุลึกลับรูปนั้นได้เมตตาสอนหลักมหาสติปัฏฐาน 4 แก่สมเด็จพระเจ้าตากสิน หลังจากที่พระองค์ทรงปฏิบัติด้วยหลักพุทธานุสติ และอานาปานสติประกอบด้วยสติปัฏฐาน 4 นั้น จิตของพระองค์ลุล่วงเข้าสู่สมาธิชั้นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เป็นเพราะพระองค์ทรงเป็นผู้มีบุญวาสนามาแต่ปางก่อน ซึ่งพระลึกลับรูปนั้นล่วงรู้เรื่องนี้ดี
เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินปฏิบัติทางมรรคผลนี้แล้ว ภูมิจิตภูมิธรรมเดิมก็บังเกิด เลิกการจับดาบถือปืน เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน ไม่นิยมสุงสิงกับใคร วันๆ ตั้งหน้าปฏิบัติดูจิตดูกายเท่านั้น คนทั่วไปทางโลกวิสัยก็เข้าใจว่าพระองค์บ้า !
หลวงพ่อจรัญกล่าวสรุปตอนท้ายว่า พระเจ้าตากบรรลุมรรคผลเบื้องต้นคือได้ “พระโสดาบัน” ตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส นับเป็นบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์อย่างแท้จริง
------------------
ที่มา
ทางเพจขอขอบคุณเรื่องเล่าจากศิษย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอย่างสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น