27 มิถุนายน 2563

การปลุกพลังอำนาจที่ไร้ขีดจำกัดที่ซ่อนเร้นอยู่ใน "จิต" และ "กายทิพย์" ของเรา ?


พลังของผู้ทรงอำนาจ ภายในกายทิพย์แท้จริงนั้น คือ อะไร ?.

"กายทิพย์" ของมนุษย์เราทุกคนต่างล้วนมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ซุกซ่อนอยู่ เพียงแต่เราไม่เคยล่วงรู้มาก่อน หรืออาจจะรู้แต่ก็เพียงผิวเผิน ประกอบกับเราไม่รู้เทคนิคการที่จะนำ
พลังอำนาจผู้ทรงฤทธิ์ ให้ลุกฟื้นคืนตื่นขึ้นมารับใช้กายเนื้อของเรา

การปลุกพลังผู้ทรงอำนาจ แท้จริงแล้วก็คือกุญแจสำคัญที่ใช้เปิดประตูแห่งจักรวาลภาย
ในตัวตนของเราเอง เพื่อเชื้อเชิญและต้อนรับศักยภาพที่ซ่อนเร้นดังกล่าวนั้นออกมาใช้
ให้เกิดประโยชน์ และ เกิดผลดีแก่ตัวตนพวกเรา

ผู้ทรงอำนาจและใจดีตนนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เรามีศักยภาพและความสามารถในการดำเนินหน้าที่และการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนเส้นทางถนนที่ราบเรียบ
ชั้นดี ที่อำนวยความสะดวกสบายของชีวิตรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อให้จิตของเราพุ่งทะยาน
ไปสู่จุดมุ่งหมายแห่งความสำเร็จในการปวารณาตัวเพื่อรับใช้ภารกิจที่เราอาสาผู้เป็นใหญ่ในการลงมาจุติเกิดในภพชาตินี้เท่านั้นเอง

ซึ่งในโอกาสอันดีนี้ พ่อจะได้นำศาสตร์แห่งวิธีการปลุกพลังอำนาจที่มีอยู่ในตัวเรามาใช้อย่างจริงจัง ศาสตร์นี้ได้ผ่านการใช้งานในยุค แอตแลนติส และอิยิปต์โบราณมาแล้วจาก
ตำหรับตำราโบราณต่างๆ ที่พ่อมี และ จะนำมาเผยแพร่แก่พวกเราเหล่า "จิตอาสาแสงสว่าง"
ขอให้มีความอดทนต่อการเรียนรู้นี้เถิด เราต้องเพียรฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจึงจะบรรลุความ
สำเร็จได้

โดยเฉพาะ "การจินตนาการ" ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้สามารถสร้าง
สรรค์ศาสตร์ที่พ่อจะนำมาให้พวกเราเรียนรู้ ให้เป็นผลสำเร็จขึ้นมาได้ในที่สุดโดยมีการ
กำหนดกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ พวกเราเหล่า "อาสาแสงสว่าง" พร้อมแล้วหรือยัง" หากมีเสียงตอบรับที่ไม่พร้อมพ่อก็จะระงับทันที

ที่สำคัญมันจะสร้างเสริมพลังจิตและพลังกายทิพย์ให้เข้มแข็ง กล้าแกร่ง บึกบึน อดทน
และ อดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุได้ดีขึ้น ซึ่งทั้งนี้เราสามารถรับรู้ สัมผัส และ เห็นได้เฉพาะตัวเอง
รวมทั้งผู้ที่มีมิติความตระหนักรู้ที่ใกล้เคียงกันก็จะสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกัน

เบื้องแรก เราต้องทนุถนอมร่างกายเนื้อของเราให้อยู่ดีมีสุข มิใช่มุ่งแต่จะบากบั่นทำงาน
โดยไม่สนใจสุขภาพกายของเรา แม้เราประสบความสำเร็จในชีวิตการงานแต่สุขภาพเรา
เสื่อมโทรมสิ่งที่เราหามาได้ก็คงไร้ประโยชน์

จงปฎิบัติต่อร่างกายเหมือนเป็นเพื่อนสนิท ชอบพอที่สุดของตัวเราเอง ร่างกายเป็นเพื่อน
ในธุรกิจของชีวิต ขอให้เราปฎิบัติต่อร่างกายของเราเหมือน พวกเราปฎิบัติกับหุ้นส่วนที่สำคัญที่
สุดในชีวิตของเรา อย่า!! ทำให้เขาตกใจ เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างปุบปับจนเขาไม่ทัน
ระวังตน

อย่าทำร้ายตัวเราด้วยความคิดที่ไม่น่าอภิรมณ์ และ อย่าเอาความดีความชอบจากสิ่งที่ร่าง
กายทำให้แก่เรา อย่าโกรธ หรือ ทำร้าย หรือ ทารุณ ตัวเอง อย่าทำให้เขาเสียใจเพราะเรา
เมินไม่ดูแลตัวของเราเอง

และ จงให้โอกาสให้เขาได้ช่วยท่าน และ จงให้กำลังใจเขาทุกๆ วัน จงให้ความดีความชอบ เมื่อเขาทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้สำเร็จ และ จงให้เขามีส่วนในความสุขของตัวเราเอง และ
รักร่างกายของตัวเราให้มากๆ

จงจำไว้ร่างกายของพวกเราเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทน
เซลล์เก่าที่ตายไป จงใช้กฎง่ายๆ ที่กล่าวมานี้รักษาร่างกายของเราให้มีสภาพดีที่สุดเท่าที่
พวกเราจะทำได้ เพราะนี้เป็นร่างกายเพียงร่างเดียวที่พวกเรามีในภพชาตินี้..

ในเบื้องที่สอง พวกเราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าเผลอจำกัดตัวเองตามอำเภอใจ หรือ
เพราะความผิดพลาดในอดีตหรือการคาดหวังจากคนรอบข้าง ทำให้พวกเราสูญเสียพลัง
ในการเชื่อมั่นตัวเองไป

ถ้าตัวเราเองไม่สามารถเชื่อมั่นในตัวเราเองได้ คนอื่นๆ ก็คงไม่สามารถเชื่อมั่นตัวเราได้
เช่นเดียวกัน ฉะนั้น จงเชื่อมั่นในตัวเองอย่างสุดจิตสุดใจ เพราะทุกสิ่งมันเริ่มจากตรงนั้น
พวกเรามีพลังอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด

โปรดอย่าลืมว่าพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่แท้จริงอยู่ในตัวของพวกเราเอง....


ที่มา

Tr1S Oranger...

แสงสว่าง มองการไกล...ผู้เรียบเรียง...

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...