25 เมษายน 2563

ฝึกจิตนอกกรอบ ตอนที่ 6"Out of body"


ประสบการณ์วิญญาณออกจากร่าง
ในทีนี้คงมีคนไม่มากก็น้อยที่เคยสัมผัสถึงประสบการณ์นี้ นี่คือการเรียนรู้ที่อาจไม่ได้ตั้งตัว เพราะบางครั้งจิตก็หลุดออกจากร่างจนคุณอดไม่ได้ที่จะตื่นกลัวและหาทางกลับเข้าร่างตัวเอง การฝึกแบบนี้ต้องใช้ความกล้าและความรักอย่างบริสุทธิ์ มิฉะนั้น อาจจะสติแตกและล่องลอยไปกับมิติที่ไม่สามารถกลับมาได้

มิติที่ 3 คือมิติของโลกกายภาพ ทุกสิ่งทุกอย่างจับต้องสัมผัสได้ เป็นมิติที่หยาบที่สุด และกว่าเราจะไปถึงมิติที่ 5 ก็ต้องผ่านมิติที่ 4 ก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดข้ามไปสู่มิติที่ 5เลย คุณจะต้องได้เรียนรู้มิติที่ 4 จนเข้าใจถึงสัจธรรมของการเกิดแก่เจ็บตาย วัฏสงสารมันมีแค่ในเฉพาะมิติที่ 3 และ 4 เท่านั้น 

มิติที่ 4 คือโลกของวิญญาณที่ยังหลงทางและไม่ตื่นรู้ พวกเค้าไม่สามารถกลับสู่พลังงานต้นกำเนิดได้ จะต้องวนเวียนอยู่ในมิติแห่งนี้และกลับมาเกิดใหม่มีร่างกายหยาบใหม่ ถูกทำให้ลืมซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าที่จะเข้าถึงการตระหนักรู้และได้ตื่นรู้จากภายในจริงๆ จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นจะคืนกลับสู่มิติที่ 5 แต่มิติที่ 5 ก็ยังไม่ใช่มิติพลังงานต้นกำเนิด

ขอขยายความเรื่องมิติที่ 4 การที่คุณได้มีประสบการณ์วิญญาณหลุดออกจากร่าง ได้ไปพบเห็นมิติที่คุณคิดว่าจบสิ้นแล้วก็คือมิติหลังความตายโลกของวิญญาณ 
หากจิตของคุณเข้มแข็งพอและมีความรักความเมตตา จะไม่มีพลังงานใดทำร้ายคุณได้ จิตวิญญาณบริสุทธิ์นั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมิติที่สูงกว่ามากมายคุ้มครอง คุณไม่ได้เดินไปคนเดียวขอให้วางใจ การที่คุณได้ออกไปศึกษาและเรียนรู้ในมิติต่างๆนั้นก็เพื่อให้คุณได้เข้าใจสัจธรรมความจริงและพึงระลึกว่ายังมีความจริงที่ยิ่งกว่าหากคุณไม่ยึดติดกับสิ่งที่เห็น การที่ได้ไปเห็นสวรรค์เห็นนรกมันไม่จำเป็นหรอกว่าคุณจะต้องลงไปเห็นไปอินกับมิตินั้น จงจำไว้ว่าเมื่อจิตวิญญาณมีความรู้ทางด้านไหน หลังความตายจิตวิญญาณของคุณจะไป ณ.ที่แห่งนั้นตามความรู้ที่คุณมี 
มันไม่จำเป็นว่าคุณจะเคยเกิดเป็นอะไรมา ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาล้วนคือบทเรียน และสุดท้ายเมื่อจิตวิญญาณเข้าใจว่าทุกอย่างคือบทเรียนบททดสอบ มันจะเข้าสู่กระบวนการการปลดเปลื้องอย่างอัตโนมัติ

เมื่อกลับเข้าร่างด้วยความเข้าใจ 
จิตวิญญาณเข้าถึงความบริสุทธิ์เป็นความว่าง มันคือการเข้าถึงนิพพานโดยที่ยังไม่ตาย ไม่ต่างกันจากการที่คุณได้ระลึกอดีตชาติ เวลาที่เห็นความทรงจำเก่าๆเหล่านั้น สิ่งที่ควรทำนั่นคือปลดปล่อยลูปนั้นให้เป็นอิสระจากชาติภพนั้นไปเสีย แล้วมิติของชาติภพนั้นก็จะหายไป ปิดลูปที่คั่งค้างแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานใหม่ที่อัพเกรดขึ้นมา เห็นมั้ยว่าจิตวิญญาณจะค่อยๆบริสุทธิ์ขึ้น 

การที่เรามีประสบการณ์วิญญาณได้ออกจากร่าง 
ก็คือการได้พบเห็นความจริงนี่คือแก่นแท้ของการเข้าสู่สภาวะนี้ 
มองตัวเองสิ ร่างกายนี้ที่กำลังนอนอยู่ ใช่คุณหรือเปล่า?
แท้จริงแล้วเราคือใคร? 
และถ้าสังเกตุจะรู้สึกหน่วงเวลามีสภาวะวิญญาณออกจากร่าง 
คุณจะรู้สึกหน่วงๆที่หัวตลอดเวลาแต่ยังไม่สามารถตื่นได้ 
แม้ยังไม่ลืมตาก็มองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวได้อย่างชัดเจน 
อาการแบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดไปเลยจากร่างมันเหมือนมีสายใยบางอย่างยึดร่างกายภาพกับจิตวิญญาณอยู่ ก็จะรู้สึกหน่วงๆเวลาที่พยายามจะดึงกลับมาเท่านั้นเอง

มองกลับมาข้างใน...เราเป็นเพียงวิญญาณ 
เราคือพลังงานที่อิสระ พลังงานที่อิสระนั้นคือสิ่งที่จริงยิ่งกว่าความจริงใดๆ 
อิสระและว่างเปล่า ไร้พันธะ ไร้อัตตา ไร้ตัวตน มีเพียงความรักที่ไร้เงื่อนไข 
ความจริงของวิญญาณก็มีเพียงเท่านี้และต่อมาเมื่อเราเข้าใจสภาวะความว่างนี้แล้วมันจะเกิดเจตจำนงเสรี 
 
Free will คือความต้องการที่บริสุทธิ์จากการค้นพบตัวตนที่แท้จริง คุณจะรู้ได้เองว่าคุณจะต้องทำอะไร ไปที่ไหน การรู้จักกับมิติที่หลากหลายนั้นก็แค่เป็นแนวทางเบื้องต้นเท่านั้นเอง มันยังมีอะไรอีกมากที่ตรงตามประสบการณ์และทักษะที่คุณมี บางคนอาจจะไปสร้างโลกใหม่ขึ้นมา แต่ทั้งหมดมันจะต้องผ่านกระบวนการปลดเปลื้องอัตตาจนบริสุทธิ์

มิติที่ 5 คือมิติแห่งรักโดยแท้ คือมิติที่ดีงามดังนั้นจึงต้องเข้าใจโลกทวิภาวะอย่างถ่องแท้จิตจึงจะเข้าถึงมิติแห่งนี้ได้ หากยังมีความกลัวความกังวล ยังติดอยู่กับความดี ติดอยู่กับแสงสว่างและยังปฏิเสธด้านมืดก็เท่ากับว่ายังแบ่งแยกขั้วทั้งสองอยู่ เมื่อจิตวิญญาณเข้าถึงรักที่ไร้เงื่อนไขแล้วจริงๆต่อให้เจอวิญญาณร้าย หรือเข้าไปในสถานที่อโคจรด้วยแสงสว่างแห่งรักไร้เงื่อนไขจะเชื่อมโยงให้พลังงานที่หลงทางเหล่านั้นเกิดการสั่นสะเทือนไปเอง พลังงานที่อ่อนแอผูกติดอยู่กับความกลัว พลังงานที่มิดมัวผูกติดอยู่กับความชัง พวกเค้าไม่รู้จักความรักที่แท้จริงเช่นนี้ 
พวกเค้าจะเกิดการตระหนักรู้แล้วหลุดออกจากวังวนนั้นไปสู่การกำเนิดใหม่ทันที

วิชาความรู้ในโลกใบนี้ บางวิชาก็ไม่ต้องรู้ ไม่ต้องเรียนก็ได้ มีหลากหลายศาสตร์มากมายนับไม่ถ้วน และแตกแขนงออกไปอีกเป็นกิ่งก้านสาขา อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องรู้ไปหมดทุกอย่าง ปล่อยให้พลังงานที่สมบูรณ์ของคุณนี่แหละดึงดูดความรู้เข้ามาเอง 
เรียนรู้อย่างอิสระ 
คุณคือพลังงานความรักที่ไร้ขีดจำกัด

#ใบไม้นอกกำมือ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...