#ถ้าขณะใดจิตรู้เฉพาะลมหายใจเข้าออกจริงๆ หายใจเข้าก็รู้ตาม หายใจออกก็รู้ตาม และรู้คำภาวนาไปด้วย เวลานั้นจิตไม่คิดถึงอารมณ์ของกิเลสแม้แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะนั้น..ชื่อว่าจิตว่างจากกิเลส ถ้าทำได้อย่างนี้ครั้งหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่ง #พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นผู้มีจิตไม่ว่างจากฌาน และตอนหนึ่งพระองค์ก็ตรัสกับพระอานนท์ว่า
"อานันทะ ดูก่อน อานนท์ บุคคลใดทำจิตให้ว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่ง
ตถาคตขอกล่าวว่ามีอานิสงส์มากกว่าพระสงฆ์ที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา ๑๐๐ ปี"
#บวช ๑๐๐ ปีและก็มีศีลบริสุทธิ์ทุกสิกขาบทไม่บกพร่อง แต่ว่าไม่เคยเจริญสมาธิจิตท่านมีศีลครบก็จริงแหล่แต่ทว่าไม่เคยทำสมาธิจิต ไม่เคยระงับนิวรณ์ บวชมาตั้ง ๑๐๐ ปี ศีลบริสุทธิ์ สู้บุคคลที่ทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่งไม่ได้ อานิสงส์มากกว่ากัน
#ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทฟังอย่างนี้อาจจะสงสัย ว่าพระอุตส่าห์อดข้าวหลังเที่ยงมาตั้ง ๑๐๐ ปี ทำไมจึงจะสู้ฆราวาสที่ปฏิบัติตนทำจิตว่างจากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่งไม่ได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าศีลถ้าว่ากันถึงศีลจริงๆ ก็มีอานิสงส์แค่กามาวจรสวรรค์ ถ้าหากว่าท่านผู้นั้นไม่ปฏิบัติ
ในสีลานุสสติกรรมฐานนะ แค่ระวังสิกขาบทจะไปเป็นพรหมไม่ได้
#และก็ประการที่ ๒ ศีลไม่สามารถจะควบคุมอารมณ์ให้ระงับจากนิวรณ์ได้ เห็นไหม กิเลสหยาบยังท่วมทับใจอยู่ แต่ที่ทรงอยู่ได้เพราะเป็นการระวังตัวไว้เฉพาะเวลาเท่านั้นเอง
#สำหรับสมาธิจิต แต่ความจริงคำว่าจิตว่างจากกิเลส จะว่าถึงสมาธิอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องวิปัสสนาญาณควบคู่กันด้วย เฉพาะสมาธิจิตจริงๆ สามารถไปเกิดเป็นพรหมได้ ถ้ามีวิปัสสนาญาณควบคุม แม้แต่วันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่งก็ก้าวเข้าใกล้นิพพานเข้าไปทุกที สามารถเป็นพระอริยเจ้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอริยเจ้าขั้นพระโสดาบันก็ดี สกิทาคามีก็ดี
ทั้งสองท่านนี้มีสมาธิไม่สูง มีปัญญาไม่มาก ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
#พระโสดาบันก็ดี #พระสกิทาคามีก็ดี
#มีสมาธิเล็กน้อย #มีปัญญาเล็กน้อย #แต่มีศีลบริสทธิ์ ท่านมีทั้งสมาธิ มีทั้งปัญญา และก็ศีลบริสุทธิ์"
#สำหรับพระที่บวชมา ๑๐๐ พรรษาหรือ ๑๐๐ ปี มีศีลบริสุทธิ์อย่างเดียว ขาดสมาธิขาดปัญญาใช่ไหม ก็รวมความว่าก่อนที่บรรดาท่านพุทธบริษัทจะบำเพ็ญภาวนา
#อันดับแรกตั้งใจว่าเวลานี้เราจะระงับนิวรณ์๕ ประการ คืออารมณ์ชั่ว ๕ อย่าง คือ
🌿หนึ่ง.. ความรักในระหว่างเพศ เฉพาะเวลาที่เราภาวนา แต่ก่อนภาวนาหรือหลังภาวนามันต้องมีเป็นของธรรมดา
🌿สอง..อารมณ์ไม่พอใจ
🌿สาม..ความง่วง
🌿สี่..อารมณ์ฟุ้งซ่าน
🌿ห้า..สงสัยในผลของการปฏิบัติ
#วิธีที่จะระงับก็ไม่ต้องนึกถึงมันเลย นึกอย่างเดียวว่าเวลานี้เรารู้ลมหายใจเข้า เวลานี้เรารู้ลมหายใจออก หรือรู้คำภาวนาเท่านี้พอ ถ้ารู้เฉพาะอย่างนี้เวลานั้นชื่อว่าจิตว่างจากกิเลส
#นี่เป็นวิธีปฏิบัติเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าเคยปฏิบัติมาจากที่อื่นคล่องตัวแบบไหนไม่ต้องเปลี่ยน อย่าเปลี่ยนวิธีปฏิบัติ ถ้าเปลี่ยนวิธีปฏิบัติแล้วจะเฝือจิตจะยุ่ง การภาวนาใหม่ ไอ้เก่าก็จะมาไอ้ใหม่ก็จะเอา ล่อกันให้ยุ่งไปหมด ในที่สุดเวลา
๒๐ นาทีใช้ไม่ได้เลย เพราะกลางคืนนี้เป็นเวลาของ"สุกขวิปัสสโก" ถ้ากลางวันนี้เป็น "มโนมยิทธิ" เป็นด้านอภิญญา
#สำหรับญาติโยมพุทธบริษัทที่มาถ้าใหม่จริงๆ ไม่เคยปฏิบัติมาเลยให้ใช้แบบนี้นะ อันดับแรกรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า หายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก
ถ้าไม่เคยภาวนาให้ใช้คำภาวนาว่า พุทโธ เวลาหายใจเข้านึกว่า พุท เวลาหายใจออกนึกว่า โธ เฉพาะท่านที่ใหม่จริงๆ นะ เอาเท่านี้พอ
#และการปฏิบัติกรรมฐานจริงๆ พระพุทธเจ้าต้องการทุกคนหมดทุกข์ ถ้าอาการที่หมดทุกข์ก็ต้องค่อยๆหมด อย่ารีบหมด ใครรีบหมดฉับพลันพระพุทธเจ้าท่านอาย เพราะว่าพระพุทธเจ้าเองก็อาศัยบำเพ็ญบารมีมาถึง ๔ อสงไขยกับแสนกับปจึงได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัม
โพธิญาณ พระอัครสาวกทั้ง ๒ ก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๒ อสงไขยกับแสนกัปเป็นอย่างน้อยนะ แต่จริงๆ แล้วเกินทุกองค์จึงได้เป็นพระอรหันต์ สำหรับสาวกปกติต้องบำเพ็ญบารมีมาอย่างน้อย ๑ อสงไขยกับแสนกัป
#หากว่าบรรดาท่านพุทธบริษัทฟังแล้วกิเลสหมดอาตมาก็พับเหมือนกัน อายนะซิ พูด ปาวๆสู้ลูกศิษย์ไม่ได้ คำว่าสู้ลูกศิษย์ไม่ได้ ครูบาอาจารย์อย่านึกว่าจะเก่งกว่าลูกศิษย์ อันนีไม่จริง ก็มีพระหลายองค์ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้อะไรแต่สอนลูกศิษย์เป็นพระอรหันด์
ความจริงคำสอนน่ะไม่ใช่พระพุทธเจ้าสอนมา แต่ท่านบังคับให้ลูกศิษย์ปฏิบัติจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์ ท่านเองไม่ได้อะไร
#ก็มีพระองค์หนึ่งบวชไปแล้ว ๓ พรรษา อยู่ในสำนักของพระพุทธเจ้าเอง ๓ ปี ยัง
ไม่ได้พระโสดาบัน ก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งอายุ่ ๗ ปี เจ็ดปีนี่เป็นพระอรหันต์ได้ บวช
แค่วันที่สามเป็นพระอรหันต์ แจ๋วไหม อย่างนี้ต้องถือว่าอาจารย์เก่งกว่าลูกศิษย์ ลูกศิษย์ขี้ขลาดรีบไปนิพพานก่อน อย่างพวกเรา.... พระสารีบุตรก็เหมือนกัน พระสารีบุตรสู้เราไม่ได้ ๑๕ วันเป็นอรหันต์ เรากี่กัปยังไม่ได้เป็นเลย ถ้าพระสารีบุตรมาอายเราแหงๆ บอกไม่สู้มันหรอกไอ้พวกนี้
🖊️📖จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๑๔ หน้าที่ ๑๐๖~๑๐๘
🙏🙏พระธรรมคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน "พระมหาวีระ ถาวโร ป.ธ.๔"
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดจันทาราม (ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
🖊️พิมพ์โดย นภา อิน🙏🙏
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น