01 เมษายน 2563

พิจารณาโทษที่จิต ตนเสมอ

✨๑. อัตตนา โจทยัตตานัง​ จงกล่าวโทษโจทความผิดของตัวไว้เสมอ อย่าไปยุ่งกับคนอื่น คตินี้นักปฏิบัติ
ทุกคนเขาจะประณามตัวเองเข้าไว้เสมอ อารมณ์ยุ่งอยู่กับกามราคะนิดหนึ่ง เขาจะประณามว่าเลวทันที
ของอะไรก็ดี ถ้าชมว่าสวย ชมว่างาม เมื่อรู้สึกขึ้นมาก็รู้สึกว่าใจของเรามันเลวเสียแล้วหรือนี่ แค่นี้เขาดำหนิ
ตัวเขาแล้ว เมื่อยิ่งไปเพ่งโทษของบุคคลอื่น ไปแสดงอารมณ์อิจฉาริษยาบุคคลอื่น ทำให้บุคคลอื่นได้รับความเร่าร้อน นั่นแสดงว่ากิเลสมันไหลออกมาทางกายและทางวาจา มันล้นออกมาจากใจ มันเลวเกินที่จะเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ นี่เราต้องประณามอย่างนี้ แล้วทางที่ไปจะไปไหน เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ยังเป็นไม่ได้ ต้อง
ไปขึ้นต้นมาจากนรก มันไม่เหมาะสำหรับเรา นี่เราต้องประณามตัวไว้เป็นปกติอย่าเที่ยวประณามคนอื่น
✨๒. กล่าวโทษตนไว้เป็นปกติ หาความชั่วของตัว อย่าไปหาความชั่วของบุคคลอื่น ถ้าเลวมากเมื่อไหร่
เราก็เพ่งเล็งความเลวของบุคคลอื่นมากเท่านั้น ถ้าเรา​ดีมากเท่าไหร่ เราก็มองไม่เห็นความเลวของบุคคลอื่น
เพราะยอมรับนับถือกฎของกรรม ที่เรายังไปแส่หาความเลวของบุคคลอื่น เสียดสีเขาบ้าง พูดกระทบกระเทียบ
เขาบ้าง ทำลายความสุขใจเขาบ้าง นั่นแสดงว่า เรามันเลวที่สุดของความเลว คือ ความเลวมันไม่ได้ขังอยู่เฉพาะ
ในใจ มันไหลออกมาทางกาย ไหลออกมาทางวาจา เพราะมันล้น เลวจนล้น นี่ขอทุกท่านจงจำไว้
#อย่าไปมองดูความเลวของคนอื่น
#มองดูความเลวของตน
#ไม่ต้องไปปรับปรุงบุคคลอื่น
#ปรับปรุงเราเองให้มันดีที่สุด
✨๓..ถ้าเรายังรู้สึกว่าคนอื่นเขาชั่ว แสดงว่าเราชั่วมาก ทั้งนี้เพราะว่า ถ้าเราดีแล้วไม่มีใครชั่ว เพราะว่า
เรายอมรับนับถือกฎของกรรม เรายังนินทาว่าร้ายบุคคลอื่น นั่นเรายังชั่วอยู่ อาการอย่างนี้จงลืมเสียให้หมด
✨๔.ก่อนที่จะทำก่อนที่จะพูดน่ะ ใคร่ครวญเสียก่อน อย่าไปคิดเห็นบุคคลอื่นว่าเขาเลว เราเห็นคน
อื่นเลวนี่ก็กลายเป็นการสร้างความเลวให้เกิดขึ้นแก่ใจของเรา
#องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้กล่าว
#โทษโจทความผิดของตัวเองว่ามันเลวไว้เสมอ
#หาจุดความเลวของกาย
#หาจุดความเลวของวาจา
#หาจุดความเลวของใจ
#อย่าไปหาจุดความดี
ถ้าพบจุดความเลวจุดไหน ทำลายความเลวจุดนั้นให้หมดไป
แล้วความดีมันก็ปรากฏเอง
✨๕. อย่าทำอารมณ์ให้วุ่นวาย อย่าใจน้อย อย่าคิดมาก จงคิดไว้เสมอว่า เราต้องตาย อย่าห่วงคนอื่นมากเกินกว่ากฎของกรรม จงนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก อย่าทะเยอทะยานเรื่องยศศักดิ์​ ถึงเวลามันได้ ถึงเวลามันมี ทำใจสบายจะมีความสุข เรื่องลูกก็ขอให้ตั้งใจอารมณ์ไว้ในฐานะพ่อแม่ที่ดี
แต่อย่าดิ้นรนเกินพอดี จะเป็นทางตัดพระนิพพานให้ไกลออกไป
✨๖. เรื่องลูก จงรักเมื่อเรามีลมปราณ ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่สมบูรณ์ และคิดไว้เสมอว่า เราต้องตาย
เขาต้องตาย มีอะไรที่เราจะเป็นทุกข์เพื่อเขา เมื่อเราหรือเขาตาย หัดวาง หัดคิด หัดยับยั้งใจ ค่อยคิดค่อยทำ
ค่อย ๆ อบรมตัวเอง อย่าหวังวาจาของคนอื่นอบรม ทำอย่างนั้นเอาตัวไม่รอด ต้องคอยจับผิดตัวเอง คอยลงโทษตัวเอง คอยโจทฟ้องตัวเอง เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นตุลาการ จงถือธรรมดาเป็นสำคัญ
✨๗. ถ้าเราไปเพ่งเล็งคนอื่นว่าคนนั้นชั่ว คนนี้ดี แสดงว่าเราเลวมาก เราควรจะดูใจของเราต่างหาก ว่าเรามันดีหรือเรามันเลว ถ้าเราดีเสียอย่างเดียว ใครเขาจะเลวร้อยแปดพันเก้าก็เรื่องของเขา ถ้า
เราดีแล้วก็หาคนเลวไม่ได้ เพราะเรารู้เรื่องของคน
#คนมาจากอบายภูมิก็มี
#คนมาจากสัตว์เดรัจฉานก็มี
#คนมาจากมนุษย์ก็มี
#มาจากเทวดาก็มี
#มาจากพรหมก็มี
มันจะเสมอกันไม่ได้ ถ้าพวกมาจากอบายภูมิ​ สอนยาก​ ป่วยการสอน
✨๘. ถ้าบุคคลผู้ใดทำใจของเราให้เร่าร้อนด้วยกายกรรม ทำด้วยกายก็ดี ด้วยวจีกรรม ทำด้วยวาจา
ก็ดี เราจงคิดว่า คนประเภทนี้เขาไม่ใช่คน เขาคือสัตว์นรกในอบายภูมินั่นเอง เราก็คิดว่าถ้าเราจะไปต่อล้อ
ต่อเถียง จะกระทำตอบเราก็จะเลวตามเขา เวลานี้จิตใจของเขาจมลงไปแล้วในนรก ถ้าเราทำตามแบบเขาบ้าง เราก็จะจมลงนรกเหมือนกัน มันไม่มีประโยชน์ จิตเราก็ระงับความโกรธด้วยอำนาจ ขันติ หรือ​ อุเบกขา นี่อุเบกขาเราใช้กันตรงนี้เลย เฉย เขาเลวก็ปล่อยให้เขาเลวไปแต่ผู้เดียว เราไม่ยอมเลวด้วย
✨๙.. ถ้าเราทุกคนปรับปรุงใจตนดีแล้ว มันก็ไม่มีเรื่องยุ่งกับคนอื่น ไม่สร้างคนอื่นให้มีความเร่าร้อน ในการที่จะเพ่งโทษคนอื่น ต้องรู้ตัวว่าเราเลวเกินไป นี่จงรู้สึกตัวไว้เสมอ รู้ตัวว่าเรามันเลว เลวมาก จนกระทั่งขังไว้ในใจไม่ได้ มันจึงอุตส่าห์
#ไหลออกมาทางวาจา
#ไหลออกมาทางกาย
นี่แสดงว่าความเลวมันล้นออกมาจากจิตใจ​ ในข้อนี้ต้องคิดไว้เป็นประจำ อย่าทะนงตนว่าเป็นคนดี
✨๑๐.. ดีหรือชั่วมันอยู่ที่การควบคุมกำลังใจ ถ้าใจของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเสียอย่างเดียว ใครจะว่าดี
หรือชั่วไม่มีความสำคัญ เขาจะประณามเราว่าเลว มันก็เลวไม่ได้ มันก็ต้องดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตของเราชั่ว
เขาจะสรรเสริญว่าดี มันก็ดีไม่ได้เหมือนกัน นี่เป็นอันว่าพระพุทธเจ้าให้ทรงรักษากำลังใจเป็นสำคัญ ควบคุม
กำลังใจให้ดีไว้ แล้วมันก็ดีเอง ไม่ต้องไปฟังคำชาวบ้านเขา การที่เราต้องดีเพราะรอให้ชาวบ้านสรรเสริญ
นั่นมันเป็นอารมณ์ของความชั่ว
✨๑๑. ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า จงยับยั้งชั่งใจในตัวเอง อย่ามมีความประมาทในตัวเอง คิดว่า อะไรเราอ่านหนังสือแล้ว เรารู้นะ นั่นน่ะชวนลงนรกดืมากที่สุด เพราะว่า
การเข้าใจผิดที่เรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิด ถ้ามีความเห็นผิด มีความเข้าใจผิด มันก็ปฏิบัติผิด
ถ้าคนที่ปฏิบัติผิด มีความเข้าใจผิด เขามีที่เก็บมีที่อยู่ คือ มี สำนักพระยายม ควบคุมอยู่
✨๑๒. ทุกท่านที่ปฏิบัติพระกรรมฐานด้วยความจริงใจ ตั้งใจจริง มีศีลบริสุทธิ์ ตั้งใจทรงสมาธิให้ตั้งเป็น
ตั้งใจรักษาปัญญาให้แจ่มใส รู้เท่าทันความเป็นจริง แต่ว่ายังไม่ถึง พระโสดาปัตติมรรค ก็ควรภูมิใจว่า เข้าอยู่ใั้น
เขตของความดี คือ อยู่ในเขตของคนดี แต่ว่าเราจะดีมากจะดีน้อยนั่นประมาทไม่ได้ ถ้ารู้ตัวว่าดีเมื่อไรก็แสดงว่า​
ว่า เราเลวเมื่อนั้น
#จงจำพระพุทธภาษิตที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
#อัตตนาโจทยัตตานัง
#จงกล่าวโทษใจ
ความผิดของตนไว้เสมอ คือ ให้ความรู้สึกว่าเรายังชั่วอยู่ เรามันชั่วตรงไหน ไปนั่งดูนิวรณ์ ๕ ว่า ถ้านิวรณ์​ ๕
ประการ ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือในเวลาใดเวลาหนึ่ง มันเข้ามากวนใจเราได้ แสดงว่าเรายังมีช่องโหว่แห่งความ
ชั่วในด้านฌานโลกีย์ ถ้านิวรณ์ ๕ ไม่สามารถจะสิงใจเราได้ แสดงว่าเราดีขึ้นถึงระดับของผู้ทรงฌาน

(คัดลอกบางส่วน) จากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๒๗~๓๕

🖊️พิมพ์​พระ​ธรรมโดย​ นภา​ อิน🙏🙏

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...