พระอาจารย์ลี (ธมฺมธโร) เพิ่นเดินธุดงค์ไปพักรุกขมูลผานกเค้า แถบภูกระดึง เมืองเลย กับพระพอมาถึงใกล้กับผานกเค้า พักอยู่กับพวกที่ทำถนน แล้วโยมเขาเอารถไปส่งให้ถึงภูกระดึง
เพิ่นบอกโยมเขาว่าจะไปหาฤาษีตนหนึ่งอยู่
เชิงภู โยมก็ว่าแถบนี้ไม่มีฤาษี แต่ก็ไปเสาะหา แต่ชาวบ้านพวกทำถนนเขาไม่รู้ภาษาคำพูดเพิ่น แต่เพิ่นก็ไปเสาะหาไปคนเดียวจึงไปเห็นฤาษีตนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับคนเฒ่าอายุประมาณ ๗๕ ปี นุ่งห่มหนังเสือ สวมชฎาใบไม้ แต่สะอาดสะอ้านหมดจด สอบถามกันและกันได้ความว่า อายุได้ ๒,๐๐๐ ปี แล้วอยู่บนภูเขาแถบนี้ตั้งแต่หล่มสัก น้ำหนาว ภูกระดึง ภูเขาแถบถิ่นนี้
เป็นเทพบุตรฤาษี ถือเพศเป็นฤาษีแต่บำเพ็ญอย่างเดียวในพรตธรรมพระวินัยขององค์พระพุทธเจ้า เป็นเทพบุตร เป็นหัวหน้าเทวดาในแถบนั้น เพิ่นว่าคราวนั้นล่ะ ที่เพิ่นไปเห็นตารุกขปติเทพบุตรผู้เป็นผู้ควบคุมเปรตผีทั้งหมด ตารุกขปติยังได้ฝากคำกับท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร มาหาผู้ข้าฯ ให้ไปโปรดเทศน์ธรรม
ให้เขาฟัง แต่ฤาษีเทพบุตรตนนั้น บำเพ็ญบารมีมาแต่เมื่อครั้งพระอุบาลีเถรเจ้ามาอยู่จำพรรษาสร้างวัดอยู่ถ้ำผาบิ้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ตัวเขาเป็นหัวหน้าผู้คนในแถบถิ่นนี้ บำรุงดูแลอุปัฏฐากพระอุบาลีเถรเจ้าทุกอย่างทุกประการฟังเทศน์ฟังธรรม
ทำอยู่อย่างนั้นได้ ๓ ปี พระอุบาลีเถรเจ้าจึง
ได้นิพพานไป นิพพานในถ้ำผาบิ้ง นั่นหล่ะ (พ.ศ.๔) ผลอานิสงส์อันนั้นทำให้ได้เป็นเทพบุตรอยู่บนดาวดึงส์ ๓๐๐ กว่าปี เห็นว่าอยู่บนสวรรค์ไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงได้ลงมาอยู่บนภูกระดึง ถือเพศบำเพ็ญเป็นฤาษีหนีจากนางสาวเทวดาทั้งหลาย
ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร เพิ่นเล่าว่า เพิ่นนั่งภาวนาอยู่แต่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ช่วงที่อยู่สอนผู้คนสอนกรรมฐานให้กับเจ้าคุณสมเด็จอ้วน ติสโส มองมาแต่กรุงเทพฯ เห็นฤาษีเทพบุตรตนนี้ นั่งภาวนาอยู่บนก้อนหินชะง่อนผาอยู่บนภูกระดึง เมื่อได้โอกาสจึงไปหาเพราะหลายภพหลายชีวิตที่ได้บำเพ็ญเป็นหมู่เป็นเพื่อนกันมา
ผู้ข้าฯ ถามว่า “ท่านอาจารย์ไปพูดคุยอะไรบ้าง ? ”
“หลายเรื่อง หลายอย่าง เรื่องกสิณ เรื่องภพชาติเกิดตายผ่านมา เรื่องราวในชีวิตนี้ เรื่องความเป็นไปในโลก เรื่องฟ้าเรื่องฝนเรื่องของมนุษย์”
“ก็แสดงว่าเทวดาตนนั้นมีอภิญญาณพอสมควร"
“ได้อยู่ เพราะเป็นลูกศิษย์ของพระอุบาลีเถระ”
“นานไหมครับ นานหรือยัง”
เขาว่า “พ.ศ.๒, พ.ศ.๓, พ.ศ.๔”
“ผมเคยได้ยินเพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) ว่าถ้ำผาบิ้งวังสะพุงเมืองเลย พระอุบาลีเถรเจ้ามาสร้างวัดแล้วนิพพานอยู่ที่นั้น ก็จริงนะซีครับ”
“จริงแน่นอน เพราะผมไปพบหลักฐานแล้ว” ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร ตอบ
ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร วัดอโศการาม นี้สมกับเป็นผู้บำเพ็ญบารมีมานานมีความรู้อะไรลึกซึ้งหลายอย่างหลายประการ เสียแต่สู้บุพพกรรมฆ่ามนุษย์เมื่อคราวที่เป็นพระเจ้าอโศกมหาราชปาฏลีบุตรไม่ได้ มาชีวิตนี้ทำให้ได้รับผลอายุสั้นได้แค่ ๕๕ ปี เท่านั้น ยังเผยแพร่ธรรมะยังไม่กว้างขวาง เรื่องการก่อสร้างเจดีย์ของเพิ่นก็ยังไม่ทันได้สร้างได้ที่วัดอโศการาม สร้างได้แต่ที่ถ้ำพระสบาย แม่ทะ ลำปาง
#หมู่พระที่เดินธุดงค์กับเพิ่นคราวนั้นที่ไปด้วยกับเพิ่นนั้น_ทำผิดทำวิบัติหลายอย่าง ผิดสัจจะก็มี ไม่เชื่อฟังคำของเพิ่น ใจไม่ลงให้เพิ่น เทวดาจึงได้เอาฝนเอาฟ้ามาลงโทษให้สำนึก เขาเอาทั้งลมทั้งฟ้าผ่า ทั้งฝนมาให้
ถึงขนาดนั้นเขายังใส่โทษท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร อีกว่า ใช้ฤทธิ์บัลดาล ให้เขาได้รับความลำบาก เมื่อไปถึงวัดบรมนิวาสแล้วก็ยังหาเรื่องหาความใส่อย่างนั้น อย่างนี้ จนที่สุดนอนหลับตายไป
ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร นี้เทวดาก็รัก มนุษย์ก็นิยม ลูกศิษย์ของเพิ่นครูอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ในยุคสมัยนั้นก็มีท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร ท่านอาจารย์ชอบ ฐานสโม ที่เทวดารัก เทวดาเข้าหา เข้าขอฟังเทศน์ธรรม
ท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) นั้นเก่งทางปราบทิฐิของพวกนาคพวกภูมิ ภูมิต่างๆ
ต่อมาอีกในภายหลัง ท่านอาจารย์แหวน (สุจิณโณ) ผู้คนทั่วประเทศก็กราบไหว้บูชา เคารพนับถือ นับแต่พระเจ้าอยู่หัวจนชาวบ้าน
เทพบุตรนรสีหะตนที่อยู่ภูกระดึง ที่ท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร ไปพบปะนั้น เขาปรารถนาต้องการที่จะเป็นพระพุทธเจ้า นับจากพระศรีอาริย์ไปเป็นลำดับที่ ๘ เป็นองค์ที่ ๘ ในอนาคตวงศ์
เป็นมิตรเป็นหมู่กับท่านอาจารย์ลี ธัมมธโร มาหลายภพหลายชาติ”
#ธรรมะประวัติองค์หลวงปู่จาม_มหาปุญโญ
#ผู้มากมีบุญ_วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ตอนที่ ๗๐
(วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
*******************************************
ขออนุโมทนาขอขอบคุณและขออนุญาตนำ
มาเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น