"..... ท่านอยากจะสละราชสมบัติแล้วมาบวชอยู่บนเขานี้ ตอนที่ท่านครบอายุ ๖๐ แต่เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองมันมีเรื่องราวอยู่เรื่อย ๆ ท่านจึงไม่สามารถสละราชสมบัติได้...."
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
"พระป่า กับ พระราชา"
ศาลาหลังนี้ "ในหลวง ร.๙" ท่านก็ขึ้นมาสนทนาธรรมกับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวิชรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เมื่อปี ๒๕๒๖
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ท่านชอบปฏิบัติในป่าในเขา เมื่อก่อนไม่มีวัดญาณฯ ท่านก็จะไปปฏิบัติทางภาคอีสาน ไปอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงตามหาบัว พระอาจารย์ฝั้น พระอาจารย์วัน ท่านชอบไปวัดป่า ไปภาวนา แล้วพอท่านมาสร้างวัดญาณฯ ก็มีพระปฏิบัติมาสร้างกระต๊อบถวายให้ท่านอยู่บนเขานี้ ท่านก็ชอบ กระต๊อบเล็ก ๆ ไม่ใหญ่
เวลาที่ท่านมาทำภารกิจที่วัดญาณฯ ตกตอนเย็นตอนค่ำท่านก็จะขึ้นมาปฏิบัติพักค้างแรมบนเขา ในหลวง ร.๙ ท่านก็เคยมาเฝ้ามาสนทนาธรรม ท่านก็มารับเสด็จฯ ที่บนศาลาหลังนี้ ในหลวงท่านก็เลยดำริอนุญาตให้พระอยู่อาศัยบนนี้ได้ เพราะทรงประกาศเขตป่านี้ให้เป็นเขตอุทยาน เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามกฏหมายนี้เขาไม่ให้ใครขึ้นมาอยู่ ไม่ให้ใครมาใช้ประโยชน์ แต่เนื่องจากพระมาอยู่ก่อนที่จะประกาศเขต ท่านก็เลยอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
แล้วท่านเองก็เคยดำริว่า ท่านอยากจะสละราชสมบัติแล้วมาบวชอยู่บนเขานี้ ตอนที่ท่านครบอายุ ๖๐ แต่เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองมันมีเรื่องราวอยู่เรื่อย ๆ ท่านจึงไม่สามารถสละราชสมบัติได้ ท่านเคยปรารภเคยพูดถึงอยู่ ก็เลยมีการเตรียมสถานที่ทำถนน ราดยางเอาไฟฟ้าขึ้นมาเตรียม
แต่พระเราไม่ได้ใช้ไฟฟ้ากันเพราะว่า วัดป่าพระป่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้า ไฟฟ้านี้เป็นพิษเป็นภัยมากกว่าเป็นประโยชน์ เพราะมันเป็นช่องให้กิเลสมาได้ พอมีไฟฟ้าเดี๋ยวก็มีเครื่องเสียง มีทีวี วิทยุ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องอำนวยความสุขต่าง ๆ ซึ่งเป็นความสุขทางร่างกาย ที่เป็นภัยต่อจิตใจ แม้แต่น้ำประปาก็ไม่ต้องมี อยู่กันแบบอยู่ธุดงค์ในป่า อาศัยรองน้ำฝนใส่แท็งค์น้ำใว้ใช้
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ธรรมะบนเขา ณ จุลศาลา เขตปฏิบัติธรรมเขาชีโอน
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี
วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๙
Cr.วัดป่า ดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น