20 สิงหาคม 2563

คำสอนอันเร้นลับของมหาคุรุติโลปะ ผู้ถ่ายทอดวจนะวาจาอันยิ่งใหญ่ให้กับนาโรปะมหาโยคีผู้ยิ่งใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา

The Masterpiece Hero คุณคือคนที่ใช่ 3.0
#ผู้จุดไม้ขีดไฟ 
ข้อที่ 40  และเธอก็จะเข้าใจแจ้งในโพธิจิตขั้นสูงสุด 
ข้อที่ 41  ไอน้ำจะระเหยขึ้นจากพื้นดินกลายเป็นก้อนเมฆแล้วมลายหายไปในท้องฟ้า
ข้อที่ 42  โดยมิอาจรู้เลยว่าเมื่อก่อนเมฆสลายหายไปแล้ว เมฆเหล่านั้นไปที่ใด 
ข้อที่ 43  เหมือนเช่นคลื่นของความคิดที่เกิดขึ้นจากจิตวิญญาณ 
ข้อที่ 44  จะมลายหายไปได้เมื่อจิตรับรู้จิต
ข้อที่ 45  อวกาศนั้นไม่มีทั้งสีและรูปร่าง
ข้อที่ 46  มันไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ถูกแต่งแต้มด้วยสีดำหรือสีขาว
ข้อที่ 47  เหมือนดังเช่นที่จิตประภัสสรไม่มีทั้งสีและรูปร่าง
ข้อที่ 48  มันไม่ถูกแต่งแต้มด้วยสีดำหรือสีขาวอันหมายถึงความดีหรือความชั่ว
ข้อที่ 49  ดั่งความบริสุทธิ์และความสว่างไสวของดวงอาทิตย์ 
ข้อที่ 50  ไม่อาจทำให้มืดมัวลงด้วยความมืดที่แม้จะยาวนานนับพันกัลป์
ข้อที่ 51  เหมือนดังเช่นความประภัสสรของจิตเดิมแท้
ข้อที่ 52  ไม่สามารถทำให้มืดมัวลงด้วยกัลป์ของสังสารวัฏอันยาวนานได้
ข้อที่ 53  แม้จะกล่าวว่าอวกาศนั้นว่างเปล่า 
ข้อที่ 54  แต่อวกาศแท้จริงนั้นก็ไม่สามารถพรรณนาได้ 
ข้อที่ 55  ดังเช่นที่เรากล่าวว่าจิตเดิมนั้นประภัสสร
ข้อที่ 56  การให้น้ำเช่นนั้นไม่ได้พิสูจน์ถึงความมีอยู่ความเป็นอยู่ได้ 
ข้อที่ 57  เพราะอากาศนั้นปราศจากตำแหน่งแห่งที่อย่างสมบูรณ์
ข้อที่ 58  เหมือนเช่นจิตแห่งมหามุทราไม่ดำรงอยู่ในที่แห่งใด 
ข้อที่ 59  โดยปราศจากการเปลี่ยนแปลง  พักอย่างเบาคลายในภาวะจิตเดิม (ไม่ปรุงแต่ง)
ข้อที่ 60  การยึดติดก็จะยึดคลายลงได้อย่างไม่ต้องสงสัย 
ข้อที่ 61  แก่นแท้ของจิตใจเป็นเหมือนดั่งอวกาศ  
ข้อที่ 62  ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดที่จะโอบล้อมไปไม่ถึง 
ข้อที่ 63  จงปล่อยให้การเคลื่อนไหวของร่างกายเรียบง่าย กลับสู่ความเป็นจริงตามธรรมชาติ 
ข้อที่ 64  หยุดการพูดคุยที่ไร้ประโยชน์  แต่จงใช้คำพูดของเธอนั้นกลายเป็นเสียงสะท้อนเพื่อให้จิตได้รับรู้ถึงสิ่งที่ได้ยินและพูดออกมา 
ข้อที่ 65  เมื่อไม่มีความนึกคิด แต่เห็นสภาวธรรมที่ก้าวข้ามไป 
ข้อที่ 66  ร่างกายเปรียบเหมือนท่อนไม้ไผ่กลวงไม่มีแก่นสารใด ๆ ทั้งสิ้น 
ข้อที่ 67  จิตใจเป็นเหมือนความจริงแท้แห่งอวกาศ ไม่มีที่สำหรับความคิด 
ข้อที่ 68  ทำจิตให้หลวมเบาสบายทั้งไม่ถือไว้และไม่ปล่อยให้ล่องลอย คือไม่เพ่งและไม่เผลอนั่นเอง 
ข้อที่ 68  เมื่อจิตใจไร้ซึ่งจุดหมายนี่คือการเข้าถึงมาหามุทราและปัญญาอันแท้จริง
ข้อที่ 70  ความสำเร็จนี้เป็นการบรรลุซึ่งการตรัสรู้อย่างสูงสุด
ข้อที่ 71  ธรรมชาตินั้นประภัสสรปราศจากวัตถุใดให้รับรู้ 
ข้อที่ 72 เธอจะพบกับมรรคาของพุทธะ  เมื่อไม่มีแล้วซึ่งหนทางของสมาธิ
ข้อที่ 73  ด้วยการวางใจอยู่กับการไร้ทำสมาธิ  เธอจะบรรลุความเป็นโพธิสูงสุด
ข้อที่ 74  นี้คือราชาของการมอง  ข้ามพ้นความยึดติดและถือครอง
ข้อที่ 75  นี้คือราชาของการทำสมาธิ  โดยปราศจากใจที่ล่องลอยไป
ข้อที่ 76  นี้คือราชาของการกระทำ  โดยปราศจากความพยายาม
ข้อที่ 77  เมื่อไม่มีความหวังและความกลัวแล้ว   เธอจะได้ประจักษ์แจ้งต่อเป้าหมาย
ข้อที่ 78  จิตเดิมที่ไม่มีต้นกำเนิด(ธรรมธาตุ) นั้นปราศจากนิสัยและสิ่งปกคลุม
ข้อที่ 79  พักจิตลงในแก่นแท้แห่งความไม่เกิด  ไม่แยกแยะระหว่างการขณะทำสมาธิและหลังทำสมาธิ ( ดำรงความเท่าเทียม คือการพักจิตลงที่จิตเดิมในทุกสภาวะจิต )
ข้อที่ 80  เมื่อความนึกคิดออกไปนั้นทำให้จิตหมดกำลังลง
ข้อที่ 81  เราจะบรรลุถึงราชาของการมอง  อิสระจากข้อจำกัดทั้งหมด
ข้อที่ 82  อย่างไร้ขอบเขตและลึกซึ้ง เป็นราชาสูงสุดของการทำสมาธิ
ข้อที่ 83  ดำรงอยู่โดยปราศจากความพยายามใดๆ คือราชาสูงสุดของการกระทำ
ข้อที่ 84  ดำรงอยู่โดยปราศจากความหวังใดๆ  คือราชาแห่งผลการปฏิบัติ
ข้อที่ 85  ในตอนแรก จิตใจเป็นดั่งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว
ข้อที่ 86  ในตอนกลาง จิตใจเป็นดั่งแม่น้ำคงคา ไหลเรื่อยช้าลง
ข้อที่ 87  ในตอนสุดท้าย  เป็นดั่งการรวมตัวของสายน้ำทั้งหมด เหมือนมารดาได้พบกับบุตร
ข้อที่ 88  แม้ผู้ศึกษาตันตระ ปรัชญาปารมิตา
ข้อที่ 89  พระวินัย พระสูตร และศาสนาอื่นๆ
ข้อที่ 90  เหล่านี้  เพียงด้วยตำราและปรัชญาคำสอนทั้งหมด
ข้อที่ 91  ไม่อาจจะเห็นซึ่งมหามุทราอันประภัสสร
ข้อที่ 92  เมื่อไม่มีความนึกคิด และปราศจากความปรารถนา
ข้อที่ 93  จงดำรงอยู่อย่างเงียบงัน
ข้อที่ 94  มัน (ความนึกคิด) เป็นเหมือนระลอกคลื่นของน้ำ
ข้อที่ 95  ความประภัสสรจึงถูกปกคลุมด้วยความปรารถนา
ข้อที่ 96  คำอธิษฐานแท้จริงต่อการปฏิบัติจะเสียไป  เมื่อนึกคิดเพียงแค่ศีลเป็นข้อๆ
ข้อที่ 97  เมื่อใดที่เธอไม่ต้องปักใจจมอยู่  ไม่ต้องพยายามรับรู้ และไม่หลงทางไปจากปรมัตถ์
ข้อที่ 98  เมื่อนั้นเธอคือนักปฏิบัติผู้ศักดิ์สิทธิ์  คบเพลิงปัญญาได้ส่องสว่างขึ้นในความมืด
ข้อที่ 99  ถ้าเธออยู่โดยปราศจากความปรารถนา  ไม่จมอยู่กับสุดขั้วทั้งสอง (สุดขั้วของความมีและความไม่มี คือสายกลาง)
ข้อที่ 100  เธอจะได้เห็นธรรมะแท้ของคำสอนทั้งหมด
ข้อที่ 101  เมื่อเธอมุ่งสู่เส้นทางนี้  เธอจะปลดปล่อยตนเองจากการจองจำของสังสารวัฏ
ข้อที่ 102  เมื่อเธอทำสมาธิในหนทางนี้  เธอจะเผาไหม้เปลือกหุ้มของกรรมอันไม่บริสุทธิ์
ข้อที่ 103  เมื่อนั้น เธอจะเป็นดั่ง “ คบเพลิงแห่งคำสอน”
ข้อที่ 104  แม้ผู้ที่ไม่ได้ทุ่มเทอุทิศตนต่อคำสอนนี้
ข้อที่ 105  เธอก็ยังสามารถช่วยให้เขารอดได้  จากการจมสู่ห้วงน้ำแห่งสังสารวัฏ
ข้อที่ 106  สรรพชีวิตช่างน่าเห็นใจ  ต้องทนทุกข์ในภพภูมิเบื้องล่าง
ข้อที่ 107  ผู้ที่ต้องการปลดปล่อยตัวเองให้อิสระจากความทุกข์  ควรเสาะหาครูที่ชาญฉลาด
ข้อที่ 108  เมื่อเต็มเปี่ยมด้วยการอธิษฐานพรจากครู  จิตใจของเธอจะเป็นอิสระ
ข้อที่ 109 เมื่อแสวงหามหามุทราในการกระทำด้วยหัวใจที่ว่างเปล่าและเป็นอิสระปัญญาจะหลอมรวมสู่ความรู้แจ้งที่เต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ ความว่างเปล่าจะบังเกิดอย่างแท้จริง 
ข้อที่ 110 การรวมของจิตด้วยวิธีการอันแยบคายนี้จะนำความรู้ซึ่งเป็นพรอันประเสริฐสู่ชีวิตของเธอ 
ข้อที่ 111 ด้วยวิธีการนี้จะทำให้จิตวิญญาณของเธอได้ตระหนักรู้ถึงแมนโดร่าหรือความจริงในสรรพชีวิตและสรรพสิ่งของโลกและจักรวาล 
ข้อที่ 112 จงดำรงอยู่ในสภาวะอันล้ำเลิศในตัวของเธอเอง 
ข้อที่ 113 ถ้าไม่มีแล้วซึ่งความปรารถนา การหลอมรวมความหฤหรรษ์และความว่างก็จะบังเกิด 
ข้อที่ 114 เธอจะมีอายุยืนยาวโดยปราศจากผมขาวและความสว่างไสวดุจดังพระจันทร์เพ็ญ 
ข้อที่ 115 จงส่งแสงสว่างออกไปให้ความเข้มแข็งและความประภัสสรของเธออุดมสมบูรณ์ 
ข้อที่ 116 เธอจะสำเร็จด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณอย่างรวดเร็วเมื่อเธอค้นพบพลังอันบริสุทธิ์ของหัวใจของเธอ 
ข้อที่ 117 ขอให้คำสอนในมหามุทรานี้ดำรงอยู่ในหัวใจของผู้มีโชคเถิด

ทั้งหมดนี้เป็นการอธิบายถึงคำสอนอันเร้นลับของมหาคุรุติโลปะ ผู้ถ่ายทอดวจนะวาจาอันยิ่งใหญ่ให้กับนาโรปะมหาโยคีผู้ยิ่งใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ซึ่งความรู้นี้ทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดให้กับมิลาเรปะมหาโยคีผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นครูผู้ถ่ายทอดวิชาเร้นลับในถ้ำบนเทือกเขาหิมาลัยให้ผมนั่นเอง 

พวกเราที่รักทุกคน การค้นพบสัจธรรมและการบรรลุถึงชีวิตที่สูงส่งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดแห่งการดิ้นรนบนโลกใบนี้นั่นเอง 

ขอให้พวกเราทุกคนค้นพบสัจธรรมชีวิตด้วยตัวเราเอง ค้นพบแสงสว่างและความสุดยอดของชีวิตที่เป็นหนึ่งเดียวกับสติปัญญา The Masterpiece Hero คุณคือคนที่ใช่ เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุดของมนุษยชาติ และมันเป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนจะต้องค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของดวงวิญญาณของเรา 

ผมหวังว่าการถ่ายทอดสัญญาณในวันนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศที่ทำให้พวกเราทุกคนสามารถที่จะก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดของชีวิตและกาลเวลาได้อย่างง่ายดาย เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนจะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและมีคุณค่าที่สุดบนโลกมนุษย์ตั้งแต่วินาทีนี้ตราบจนถึงลมหายใจสุดท้าย 

--------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...