เมื่ออาตมาไปฝึกหัดสมาธิ หุงน้ำมันมนต์ กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง จ.พระนครศรีอยุทธยา ไปทำมาเดือนแล้วไม่ได้ ไม่มีอภินิหารของน้ำมันเลย วันสุดท้ายจะขอลาท่านมา บอก “หลวงพ่อ ผมไม่ได้ผลเลย” คาถาเสกน้ำมันพุทธมนต์ก็ไม่มีอะไร คาถาพุทธคุณ ๑๐๘ พาหุงมหากานี่แล้ว อะสังวิสุโส ปุตสะพุทภะ มะอะอุ อุอะมะ อะมะอุ อะไรทำนองนี้ ทำไม่ได้ น้ำมันเดือด แล้วจุมก็ไม่ได้ ใช้น้ำมันเปล่า ๆ ก่อน ใช้น้ำร้อนเดือด ๆ จุมก็พองหมด ลิ้นพองหมด ทำอย่างไร อ๋อ! ตรงนี้เอง อัสสาสะ-ปัสสาสะ ถึงจะเกิดสมาธิ ถึงจะเกิดจิตเป็นกุศล นี่หลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง จ.พระนครศรีอยุทธยา ท่านก็สิ้นชีวิตไปนานแล้ว หลวงพ่อจาด จ.ปราจีนบุรี หลวงพ่ออินทร์ หลวงพ่อเรื่อง หลวงพ่อเดิม อ๋อ ! ใช้อย่างนี้เอง ใช้อย่างนี้เอง แล้วอาตมาก็ได้จุด
พอได้จุด ลองทำคืนนั้น หนึ่งเดือนแล้วที่ไปอยู่กับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง ก็ลงมือทำตอนตีหนึ่ง หายใจเข้า อ๋อ! ได้เลย หายใจออก ก็คาบลมมันก็เพ่งไปตามสมาธิถึงจุดนั้นเลย มันมีพลังสูงมาก มีพลังสูง อ๋อ! ได้ตรงนี้เอง เราว่าคาถาให้มันจบ มันก็ไม่ได้ผล เช่นยกตัวอย่าง หลวงพ่อศุข วัดมะขามเฒ่า เสกใบมะขามเป็นตัวต่อ เสกเข้าไปเถอะว่าคาถาถูก มันก็ไม่ได้ ไม่เท่ากัน เพราะอัสสาสะ-ปัสสาสะ ลมหายใจเข้าออกไม่เป็นคาบ ที่โบราณบอกคาบลม เช่น นะโมพุทธายะ หายใจออกไปให้จบนะโมพุทธายะ พอยะธาพุทธโมนะ หายใจเข้าให้ได้จบ อ๋อ! นี่อัสสาสะ-ปัสสาสะ มันจึงจะมีอภินิหารของอารมณ์ จิตถึงจะเป็นกุศล เท่าที่ได้ฟังพระอาจารย์สอนมาหลายองค์ท่านทำไม่ได้ ท่านก็ทำ บางทีเราทำขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ปากมันว่า จิตมันไม่ว่าอย่างนี้เอง จิตมันไม่ไป จิตไม่เป็นกุศล จึงไม่ได้ผลโดยวิธีนี้ประการหนึ่ง
Cr.Lpเย่นต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น