การทรงอารมณ์มีความสำคัญมาก สมมติว่าถ้า
ท่านได้ ทิพจักขุญาณ หรือว่าได้ มโนมยิทธิ
บางท่านคุยกับพรหมหรือเทวดาหรือพระอริยะ
คุยกันได้ไม่นานละ หล่นป๋อง ไม่รู้อย่างไร
นั่งพลาดเก้าอี้หล่นไม่รู้ตัวแล้ว
บางทีเห็นหน้าเทวดา เห็นหน้าพรหม อยากจะคุย
ใช้เวลา ๒-๓ นาที ก็คุยกันคำสองคำหายไปแล้ว
ความจริงท่านไม่ได้หาย เราหาย ทั้งนี้เพราะอะไร
เพราะว่าไม่ได้ฝึกการรักษาการทรงอารมณ์
วิธีฝึกทรงอารมณ์ให้ทำอย่างนี้
เราจะนั่งหลับตาก็ได้ ลืมตาก็ได้
ที่ไหนสบายอากาศโปร่งๆ นั่งดูยอดไม้ นั่งดูนกบิน
ผีเสื้อบิน ตามใจเถอะ ปล่อยใจสบายๆ
ในขณะนั้นจับลมหายใจเข้าออก รู้ลมหายใจเข้า
ออก หายใจเข้าออกคิดเป็น ๑ ภาวนาด้วยก็ได้
จับนับ ๑๐ ขยับนิ้ว
หายใจเข้าหายใจออกขยับนิ้วเป็น ๑
หายใจเข้าหายใจออกเป็น ๒ เอาแค่ ๑๐ ช่วง นี่ให้
ทรงตัวจริงๆ
ถ้าเราคิดว่าเราจะทรงอารมณ์ให้ถึง ๑๐
ถ้าในช่วงที่ไม่ถึง ๑๐ ถ้ามีอารมณ์แทรกเข้ามา
ต้องลงโทษ เริ่มต้นใหม่ทำให้ได้
ถ้าหากพยายามรักษาอารมณ์ ๑ ถึง ๑๐ มันก็ไม่
เกิน ๗ วัน มันจะกลายเป็น ๑ ถึง ๒๐๐ ถ้าไม่ถอน
ตัวจะมีสมาธิสูงขึ้นนะ
ถ้าหากว่าพยายามฝึกอารมณ์แบบนี้เรื่อยๆ
ทีหลังเวลาไปสวรรค์ก็ดี ไปพรหมก็ดี ไปนิพพาน
ก็ดี ไปสัตว์นรก ไปสำนักพระยายมก็ดี หรือว่านั่ง
อยู่ตรงนี้เราต้องการจะพบใครที่ตายไปแล้ว
ท่านจะเป็นเทวดาก็ดี เราจะคุยกันแบบสบายๆ ทั้ง
วันก็ได้ นี่ต้องเป็นการรู้จักการทรงอารมณ์
ธรรมโอวาท พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี
ลิงดํา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น