แล้วทำไมจึงไม่ข้ามการรู้เรื่องฌานทั้ง ๒ ไปเลยไม่ได้หรือ
สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้
ที่เจ้าสงสัยว่า การปฏิบัติพระกรรมฐาน ในเมื่อรู้ว่ารูปฌานและอรูปฌานเป็นเหตุทำให้จิตติดสุขในฌาน มีผลทำให้ต้องเกิดเป็นพรหมและอรูปพรหมได้ แล้วทำไมจึงไม่ข้ามการรู้เรื่องฌานทั้ง ๒ ไปเลยไม่ได้หรือ
ทรงตรัสว่า ข้ามไปไม่ได้หรอก เพราะร่างกายอาศัยอยู่ได้ด้วยลมหายใจเข้า - ออก คนเกิดมาจนกระทั่งตายไป หากไม่รู้จักคิด ตายไปก็ยังไม่รู้จักลมหายใจเข้า - ออกก็มี และที่เจ้าพิจารณาว่าคนเรานี่อยู่กับความสกปรกตลอดเวลา ที่ต้องอาบน้ำ -แปรงฟัน - ชำระสิ่งโสโครกอยู่ตลอดเวลา เพราะจิตต้องการความสะอาด
คนที่ไม่รู้มองไม่เห็นความสกปรกของร่างกาย ก็ทำความสะอาดให้ร่างกายตั้งแต่วันเกิดไปจนถึงวันตาย แต่ก็ยังไม่เห็นความสกปรกของร่ายกายก็มีมาก
การบริโภคอาหารก็เช่นกัน เห็นแต่ความอร่อย ติดในรสของอาหาร กินอิ่มทุกมื้อคิดว่าเป็นสุขดี แต่ไม่เคยเห็นความสกปรก - ความเสื่อม - ความไม่เที่ยงของอาหารและของร่างกาย จนกระทั่งตายแล้วกลับมาเกิดใหม่อยู่อย่างนั้น ไม่หลุดพ้นจากอุปาทานขันธ์ ๕ ไปได้ ก็มีอยู่จำนวนมากสุดประมาณได้ ด้วยเหตุเหล่านี้แหละ จึงจำเป็นที่จักต้องรู้ รู้ถึงพ้นได้ ถ้าไม่รู้ก็ไม่พ้น จักพ้นรูป - พ้นนาม - พ้นกาย - พ้นจิต ก็ต้องเรียนรู้ ศึกษาของจริงกันอย่างนี้แหละ
พระพุทธศาสนา แปลว่าผู้รู้ รู้ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยมรรคผล ถึงซึ่งตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานได้ จึงจักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล พิสูจน์ได้ทุกกาลทุกเวลา
ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๑๐ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๐
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
#สมเด็จองค์ปฐม #ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น