28 มกราคม 2564

ฌานมหัศจรรย์ของหลวงปู่สาม_อกิญฺจโน

โดยปกติอันเป็นอุปนิสัยแท้และดั้งเดิมของหลวงปู่สาม อกิญฺจโน ท่านเป็นผู้พูดน้อย สงบเสงี่ยมมีศีลาจารวัตรอันงดงามในความเป็นสมณะ บอกถึงความเป็นพระผู้ปรารถนาวิมุตติสุข

จากคำบอกเล่าของศิษย์ผู้ปรนนิบัติรับใช้อย่างใกล้ชิดได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่า ...
ภายในกุฏิของหลวงปู่สาม ยามค่ำคืน จะมองเห็นแสงสว่าง เรื่อเรื่องเป็นดวง ๆ

ดูแต่ไกลประหนึ่งว่าท่านได้จุดประทีปดวงน้อยตามไว้รอบห้อง แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ปรากฏไม่มี เทียนสักเล่ม

แต่แสงเรื่อเรื่องนั้นได้แตกสว่างอยู่ในอากาศ ระบายเป็นจุดสว่างอยู่ทั่วไปภายในกุฏิของท่าน

เมื่อมีผู้เรียนถามหลวงปู่สาม ว่า “เป็นแสงอะไร?”

ท่านได้กรุณาตอบว่า “เป็นแสงเรื่อเรื่องของเทพยดาต่าง ๆ ที่มีความผูกพันกับสถานที่นั้น เขามาร่วมอนุโมทนาบุญ

และอีกเรื่องนึง สมัยที่หลวงปู่สามท่านเดินธุดงค์ท่องเที่ยวขึ้นไปทางภาคเหนือ ไปพำนักอยู่ที่ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ จากนั้นก็ย้ายไปพำนักอยู่ในป่า

คืนวันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่สาม กำลังนั่งบำเพ็ญเพียรสมาธิภาวนาอยู่ในกระต๊อบหลังเล็ก ซึ่งโยมคนหนึ่งได้มาปลูกไว้ให้ท่านอาศัยพำนัก

ขณะที่จิตของท่านดิ่งลงสู่สมาธิในฌานสมาบัติอยู่นั้น มีชาวบ้านซึ่งไม่พอใจในการแสดงธรรมของท่านให้ประชาชนเลิกนับถือผีสาง เลิกงมงายในสิ่งเหลวไหล

ชาวบ้านผู้นี้ได้สูญเสียประโยชน์จากการหลอกลวงผู้อื่นให้นับถือผี ได้ย่องเข้ามาในกระต๊อบ ของหลวงปู่สาม

แล้วเอาก้อนหินใหญ่ทุ่มลงบนศีรษะของท่าน จนศีรษะแตกเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วทั้ง พื้นและข้างฝากระต๊อบ

แต่หลวงปู่สามก็ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงทรงอยู่ในฌานสมาบัติ

ทำให้ชายผู้ลอบมาทำร้ายคิดว่า หลวงปู่สามคงจะมรณภาพไปแล้ว ชายผู้นั้นจึงพังฝากระต๊อบ ให้ทับถมลงไปบนร่างของหลวงปู่สาม แล้วจึงหลบหนีไป

ต่อมาครั้นเมื่อหลวงปู่สาม ถอนจิตออกจากฌานสมาธิแล้ว ท่านมีความแปลกใจว่า
ทำไมกระต๊อบจึงพังทลายลงมา 
และรอยเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ทั่วนี้มาจากไหน ?
ทำไมเลือดจึงมากมายเช่นนี้”

ครั้นเมื่อได้พิจารณาร่างกายของท่านเอง จึงได้รู้ว่าเลือดเหล่านั้น ไหลออกจากบาดแผลในร่างกายของท่านนั่นเอง ฟันในปากก็โยกคลอน ภายในปากก็แตก แต่ที่ใบหน้ากลับไม่ปรากฏบาดแผล

ท่านจึงนึกได้ว่า ต้องมีผู้ลอบมาทำร้ายในขณะที่ท่านกำลังอยู่ในฌานสมาธิ ทำให้ท่านรู้สึกขบขัน ไม่ได้มีความโกรธเคืองแต่ประการใด

จากนั้นหลวงปู่สามก็เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านได้เห็นร่างกายและจีวรของท่าน ชุ่มโชกไปด้วยเลือด จึงได้สอบถามท่าน พอรู้เรื่องต่างก็มีความโกรธแค้นมาก

จึงสืบสาวราวเรื่องก็ได้ทราบว่า มีบุคคลบางจำพวกโกรธแค้นหลวงปู่สาม ได้จ้างชาวบ้านผู้นั้น ให้มาลอบทำร้ายท่าน

ต่อมาภายหลัง ชายคนร้ายนั้น เมื่อทราบว่า หลวงปู่สาม ไม่มรณภาพ ก็มีความตกใจกลัวเป็นอันมาก

ได้เข้ามากราบสารภาพผิดกับหลวงปู่สาม หลวงปู่สามก็ได้ให้อโหสิไม่โกรธเคืองอาฆาตผูกพยาบาทแต่ประการใด

แต่นั่นแหละเพราะบาปกรรมที่ทำร้ายพระผู้ทรงศีลพระวินัยอันสะอาดบริสุทธิ์ขณะทรงฌาน

บาปนั้นได้สนองคนร้ายในเวลาต่อมาด้วยการประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก เรียกว่า "กรรมทันตาเห็น"

" .. ธรรมะของจริงอยู่กับบุคคลทุกคน
เว้นไว้แต่คนไม่ทำ ถ้าทำต้องมีทุกคน 
เพราะธรรมะเป็นของจริง 
ต้องทำจริงจึงจะเห็นธรรมะของจริง 
การกระทำต้องทำจิตใจให้สงบ 
ใจจะสงบได้ ก็ต้องอาศัยการพยายาม
ทำจิตใจให้มันดี ทำจิตใจให้พอใจในใจ
เพราะธรรมะเป็นของละเอียดลึกซึ้ง
ของจริงมันมีทุก ๆ คน
ธรรมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ก็มีอยู่ในคนทุกคน
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
ก็มีอยู่ทุกคน แต่เราทำไม่ถึง
ไม่ถึงพระพุทธ ไม่ถึงพระธรรม ไม่ถึงพระสงฆ์ .."
โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่สาม อกิญฺจโน

หลวงปู่สาม อกิญฺจโน แห่งวัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์ ท่านเป็นศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และหลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่สามมรณภาพเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ 

กราบ กราบ กราบ

_/\_ _/\_ _/\_

#ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพและบทความ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...