20 มกราคม 2564

จักรวาลคู่ขนานปฎิสสาร?....

สิ่งที่พ่อจะเล่าต่อไปนี้ขอให้เป็น " วิจารณาญาณของท่านผู้อ่าน" ก็แล้วกัน เพราะนักวิทยา
ศาสตร์ปัจจุบันยังถือว่าเป็นเพียง "ทฤษฎี" เท่านั้น และรอให้อนาคตที่วิทยาศาสตร์จะไข
ความจริงให้พวกเราได้รับรู้ต่อไป..

พ่อเป็นนักค้นคว้าตำราโบราณ และ เรื่องเร้นลับ และ ค้นพบความจริงหลายอย่างจึงอยาก
นำมาเล่า คิดว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันอย่าซีเรียสกับมันมาก เพราะความจริงใน
จักรวาลนี้ยังมีอีกมากที่เราไม่รู้ อย่าเพิ่งปิดหูปิดตาเสียก่อนล่ะ

มันเป็นบทสัมภาษณ์ในหนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีผู้สื่อสารกับชาวต่างดาวได้นำบทสนทนามา
เผยแพร่ในหนังสือเล่มนึง พวกเขามาจากเอกภพคู่ขนานปฎิสสาร ที่เป็นคู่แฝดกับจักรวาล
ของเรา...

เป็นคำบอกเล่าของมนุษย์ต่างดาวชาว "พลีจารัน" ซึ่งมาจากดาวที่อยู่ใกล้กับดาว Pieiades เธอมีชื่อว่า แอสเก็ต เธอบอกว่าเชื้อสายของเธอเรียกกันว่า "เอกภพดาล"
ซึ่งมีความน่าจะเป็นอย่างมากที่จะเป็นจักรวาลคู่ขนานของสิ่งเสมือนจริง คือ เอกภพของเรา

เธอบอกว่าเอกภพของเธอมีอยู่ ดำรงอยู่ เพราะ เอกภพของเรา และ เอกภพของเราก็เช่นกัน มีอยู่ ดำรงอยู่ ก็เพราะเอกภพของเธอเช่นกันเปรียบประดุจเงาของกันและกัน

ถ้ามีเหตุให้ฝ่ายหนึ่งหายไป อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ เพราะโลกและจักรวาล
เป็นเพียงคลื่นความสั่นสะเทือนชนิดหนึ่งเท่านั้น และ ยังมีจักรวาลอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน
แบบนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ เรื่องการมีสสารแล้วก็ต้องมีปฎิสสารซึ่งเป็นของคู่กันด้วย

เอกภพดาล ซึ่งเป็นจักรวาลคู่ขนานปฎิสสารของเอกภพของเราจะไม่สามารถที่จะติดต่อ
กับจักรวาลของเราได้เลย และจักรวาลมิติคู่ขนานปฎิสสารนี้ซึ่งมีระบบ กาล - อวกาศ ต่าง
จากเราเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ซึ่งใกล้กันมากแต่แยกจากกันโดยเด็ดขาดด้วยคลื่นมิติฯ
โดยเด็ดขาดโดยไม่สามารถจะติดต่อสื่อสารกันได้เลย

นักวิทยาศาสตร์ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าทำไมเอกภพที่สังเกตุได้ทำไมจึงมีแต่สสารเกือบทั้งหมด
และ มีที่แห่งอื่นอีกหรือไม่ที่มีแต่ปฎิสสารทั้งหมด และ อะไรจะเกิดขึ้นหากเราสามารถนำ
ปฎิสสารมาใช้งานได้ในขณะนี้

การที่มีสสารและปฎิสสารอยู่อย่างไม่สมดุลในเอกภพที่เราสังเกตุได้ เป็นหนึ่งในปัญหา
ที่วิทยาศาสตร์เรายังไขความลับนี้ไม่ออกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวิชาฟิสิกส์ 

เมื่อปฎิสสารเจอกับสสารมันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า "การประลัยคู่" มันเป็นการทำลายล้างซึ่ง
กันและกันอย่างสิ้นเชิงทีเดียว และ นี่คือฟิสิกส์จริงๆ เมื่อเกิดการประลัยคู่อนุภาคทั้งสอง
ทั้งปฎิสสารและสสารจะสลายตัวไปกลายเป็นพลังงานอย่างมหาศาลที่มีอนุภาคร้ายแรง
กว่าอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดและนํ้าหนักเท่ากันตามสมการของไอน์สไตน์ Emc กำลัง 2
ที่ว่ามวลเปลี่ยนเป็นพลังงานและพลังงานเปลี่ยนเป็นมวลได้ ก็เหมือนกับไฟฟ้าที่ขั้วทั้ง
สองมาประกบกันก็จะเกิดการซ๊อคนั่นแหละ

แอสเก็ตเธอคือจิตอาสาแสงสว่างที่อาสามาช่วยเหลือโลกในการเลื่อนระดับชั้นของโลก
ในครั้งนี้ด้วย และ ในขณะนี้เธออยู่บนยานของ "สมาพันธ์แกแลคซี่แสงสว่างแห่งจักรวาล"
ภารกิจของเธอในปัจจุบันของเธอ คือ การล้างยีนส์ที่มนุษย์นั้นโดนรูปธรรมต่างดาวฝ่ายมืดใช้ อาหารและยา ทำให้ตาที่สามของมนุษย์ใช้งานไม่ได้ เบี่ยงเบนความตระหนักรู้ของ
มนุษย์จนเราไม่สามารถมองเห็นแก่นแท้ของสัจจธรรมความจริงได้

ทำให้พฤติกรรมมนุษย์หลงไหลในวัตถุนิยม จนเกิดความก้าวร้าวจนไม่สามารถเพิ่มความ
ตระหนักรู้ในมิติความถี่ทางกายภาพในตัวเองได้ การล้างยีนส์ทำได้โดยการนั่งสมาธิ และ
ด้วยการช่วยเหลือของเหล่า คุรุผู้มีญาณที่อาสามาช่วยเหลือโลกในครั้งนี้ เช่น การเปิด
คอรส์อบรมสมาธิของท่านอาจารย์บรรพต (เมาส์) ก็สามารถช่วยเหลือได้วิธีหนึ่ง

พวกเขากล่าวว่าความจริงที่สมบูรณ์นั้นมนุษย์เราไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส
ทั้ง 5 หรือ โลกแห่งวัตถุเพียงอย่างเดียว โลกของเราและแกแลคซี่ต่างๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ยังมีโลกที่เรามองไม่เห็นในมิติคู่ขนานและมิติความตระหนักรู้อื่นๆ อีกมาก เช่น ในมิติที่เรามองไม่เห็นหรือมิติมืดนั่นแหละ และ โลกเสมือนจริงในมิติต่างๆ อย่างในภาพยนต์เรื่อง
"แมททริกซ์" ที่มี 2 โลก คือ มิติแห่งความจริง และ มิติเสมือนจริง ที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่
ในขณะนี้นั่นแหละ....

ที่มา
แสงสว่าง มองการไกล....

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...