11 มกราคม 2564

**เด็ดดอกไม้.สะเทือนถึงดวงดาว

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ล้วนต้องมีเหตุปัจจัยสร้างมา รวมทั้ง มหาภัยพิบัติ ที่เคยเกิดในอดีตอันยาวนาน และ ในอนาคต ทุกอย่างเกิดจาก”กรรม” และ “วิบากกรรม”..เมื่อดวงจิตหลายๆดวง อยู่รวมกันในโลกนี้..ย่อมต้องรับผลของกรรมรวม ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี กรรมไม่ดี จิตเราสร้างโลก นำธาตุ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาสร้างกาย และ สรรพสิ่ง เมื่อใดที่จิตรวม มีกระแส”สารสีดำ”(บาป) มาก..ย่อมทำให้ ดิน น้ำ ลม ไฟ เกิดการแปรปรวน เกิดมหันตภัย ด้วยอำนาจของ”พลังบาป”..หรือ “พลังกิเลส” พลังแห่งความร้อน.สูงสุด.เมื่อมนุษย์
 
  ..มีราคจริตมาก โลกจะถูกล้างด้วยภัยจากน้ำ
 
 .. มีโทสจริตมาก โลกจะถูกล้างด้วยภัยจากไฟ
 
 .. มีโมหจริต มาก) โลกจะถูกทำลายด้วยลม

*..ปัจจุบันนี้..กระแสแห่งบาป “สารสีดำ” มีพลังมาก จิตมนุษย์โลก มี ราคะ โทสะ โมหะ มาก มากเกินกว่า “สารสีขาว”(กรรมดี)..จึงทำให้เกิดภัยทั้งจากสิ่งรอบตัว คนในครอบครัว จึงมีข่าว พ่อแม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ สามีภรรยาฆ่ากัน คนไม่รู้จักกัน ฆ่ากันง่ายๆ..ต่อๆไป.วิบากกรรมดำ จะพาไปสู่ การทำล้างกัน ระดับกลุ่มคนความคิด ความเชื่อไม่เหมือนกัน และ จะลุกลามไปถึงระดับประเทศ ที่มีการแข่งขันกัน

*.จิตแห่ง มวลรวมกรรมดำนี้จะหลอมรวม เป็นลูกโซ่ ทำให้โลกมีการแปรปรวนรุนแรง จนเกิด มหันตภัยรุนแรง ทั้ง น้ำแข็งละลาย น้ำท่วม ดินถล่ม พายุทอร์นาโด แผ่นดินแยก เขื่อนพัง ภูเขาไฟฟื้นชีพ อากาศหนาวเย็น สารกัมมันตภาพรังสีแผดจ้า..มันไม่ได้ทำลายเฉพาะมนุษย์และบ้านเรือนเท่านั้น..แต่ยังทำลาย สัตว์ต่างๆ..ในโลกนี้(มากกว่ามนุษย์อีก)..ยังสะเทือนถึงโลกทิพย์ในชั้นติดกับโลก(จาตุม)..เหล่าเทวดาตามต้นไม้ ตามพื้นดิน ใต้ก้อนเมฆ ยังต้องหาที่อยู่ใหม่.(เด็ดดอกไม้.สะเทือนถึงดวงดาว”)

..แม้มีหลายดวงจิต พยายามช่วยกันเร่งทำความดี มีจิตเมตตา รักษาศีล สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตาให้โลกนี้ มีการสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆ..ลดยับยั้งภัยพิบัติ..แต่ดวงจิตในโลกนี้ส่วนใหญ่ ..สร้างกรรมดำ มากกว่า..ย่อมส่งผล วิบากกรรมดำ เกิดเร็วขึ้น รุนแรงขึ้น ..อะไรเล่า จะเกินกฎแห่งกรรม แม้แต่บารมีของพระพุทธเจ้าเป็นอัปปมาโณ..แต่ต้องไม่เกินกฎแห่งกรรม..

**.การไม่ประมาท และ มรณานุสสติ พุทธานุสสติ..เป็นสิ่งที่เราควรปฏิบัติให้มากขึ้นๆ..เราไม่รู้วาระตายในอนาคต แต่ในอนาคตเราทุกคนต้องตายแน่..เราต้องเตรียมตัวตาย..อย่างฉลาด คือ ถ้าจะตาย ให้ตายโดยจิตที่ผ่องใส ไม่ใช่จิตที่เศร้าหมอง..วาระนี้ การสั่งสมบุญ เป็นเสบียงในการเดินทางข้ามภพชาติ เป็นสิ่งที่ควรเร่งกระทำ..

***..ในอนาคต เราไม่รู้ว่า เราอาจจะได้เห็น ฟ้าสว่างโร่ทั่วท้องฟ้า และตามเมืองใหญ่ แสงนั้น ทำให้ตามืดบอดได้ การเตรียมการป้องกันดูแลตนเองครอบครัว ในภาวะภัยพิบัตินั้น สถานที่ไหนที่ปลอดภัย ศึกษาไว้ วาระไหนควรเดินทางจากจุดเสี่ยง สิ่งจำเป็น ทั้ง อาหาร น้ำ ยา ชุดยังชีพ ไฟ ..และจำเป็นสุด “สติ” และ “พุทธานุสสติ (มีวัตถุมงคลติดกายไว้)..+ เสียงสวดมนต์.ให้จิตมีกำลังและสว่างไส..มีรัศมีป้องกันสิ่งไม่ดี รวมทั้ง เชื้อโรคด้วย

** กฎแห่งกรรมวิบาก จะแสดงความมหัศจรรย์ในการ ‘คัดคนออก’ คนอยู่ โลกเราจึงมีทั้ง พื้นที่เสียง พื้นที่ปลอดภัย การประสบเคราะห์กรรมร่วมกัน (กรรมหมู่) แสดงถึงอดีตทำกรรม ร่วมกันมา

*** สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนเกิดแต่กรรม มีกรรมนำมาเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมรวมแห่งมวลมนุษย์ ยากจะเลี่ยงกรรม แต่สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ โดยการรู้การระลึกถึงบุญเก่า แล้วพิจารณากาย ให้ว่างเปล่า โล่งว่าง เบาสบาย ดูกายไปเรื่อย ๆ.. จนเห็นกาย เป็นกายแก้วใส จากนั้นให้แผ่เมตตาออกจากกายแก้ว แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย แล้วอธิษฐานตรงกลางกายนั้น ว่าท่านต้องการอะไร.........
**.ถ้า(สมมุติ)..ถ้าเกิดเหตุการณ์จริง..ย่อมมีคน สัตว์ ตายจำนวนมาก เชื้อโรคโรคทางเดินอาหาร การแย่งชิงอาหาร คนเสียคนในครอบครัว ถ้าไม่ปลง จะเสียสติเดินไปเดินมา ยังมีจิตวิญญาณเร่ร่อน..ที่ตายก่อนอายุขัย

***.มหันภัยธรรมชาติ ไม่ได้สร้างให้มนุษย์ที่เหลือ เป็นคนดีชั่วข้ามคืน ไม่ได้จะล้างบาป แล้วคนที่เหลือ คือคนดี คนจะดี จะชั่วอยู่ที่ใจของเขา ว่าจะตระหนัก กระทำ ความดี ความชั่ว แค่ไหน แม้แต่คุณรอด..ไม่ได้แปลว่า จะรอดตลอดไป..มันมีความตายรออยู่ข้างหน้าแน่นอน..ตราบใดที่คุณ ยังมีการเกิด..คุณ..ก็ต้องมี การตาย..แน่นอนอ  


ที่มา มโนธาตุ โพธิญาณ 

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...