พระเทวทัต.. ตามจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้าในทุกชาติที่เกิดมาเจอกัน อีกทั้งกรรมที่อาฆาตผูกกันมา ยังดูดให้มาเกิดเป็นญาติกันก็มี เป็นลูกศิษย์อาจารย์กันก็มี เป็นพ่อลูกแท้ ๆ กันก็มีดังในชาติที่พระพระเทวทัตเกิดเป็นพระเจ้ามหาตปาตะ มีลูกเป็นธรรมบาลกุมาร ซึ่งก็คือพระโพธิสัตว์ แต่สุดท้ายก็ฆ่าลูกแท้ ๆ โดยนำมาตัดแขนทั้ง ๒ ข้าง ตัดขาทั้ง ๒ ข้าง และทำลายศีรษะ จนกระทั่งสิ้นชีวิต เพราะทรงเข้าใจว่ามเหสีรักลูกมากกว่าตน
..ในทางกลับกัน ในชาติที่พระเทวทัตไม่ได้เกิดมาเจอพระโพธิสัตว์ พระ เทวทัตก็ได้ทำความดีอย่างมากมาย เพราะไม่เจอเสี้ยนหนามในใจที่ไปกระตุ้นให้ทำความชั่ว จึงทำให้พระเทวทัตสร้างกุศลอย่างราบรื่นยิ่งยวดไม่แพ้กัน บุญนี้จึงส่งผลให้พระเทวทัตเกิดมาเหนือกว่าพระโพธิสัตว์นับชาติไม่ถ้วน
..เช่นที่ชาติพระเทวทัตเกิดมาเป็นพระราชา พระโพธิสัตว์เกิดเป็นช้าง ในชาติที่พระเทวทัตเกิดเป็นชฎิลดาบส พระโพธิสัตว์เกิดเป็นสุกรใหญ่ ฯลฯ แต่พอเกิดมาเจอกันทีไร เพราะความอาฆาตแค้นจึงทำให้พระเทวทัตสูญเสียความดีในตัวได้ง่าย และพร้อมจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำลายล้างพระโพธิสัตว์ เท่ากับพระเทวทัตเอาบุญที่ทุ่มเททำมาเป็นอสงไขยกัป มาเดิมพันในการทำความชั่วต้องสูญเสียบุญจำนวนมากไป แถมได้บาปมาจนภพมนุษย์รองรับไม่ไหว ดังในชาติสุดท้ายที่พระเทวทัตโดนธรณีสูบตกลงไปในอเวจีมหานรก
พอได้อ่านเรื่องนี้แล้ว อยากให้คิดเอาเองว่า คุ้มไหม..? กับการคิดอาฆาตพยาบาทใครสักคน และหากแรงอาฆาตพยาบาทนั้นดึงดูดให้ใครคนนั้นมาเกิดเป็นคนในครอบครัวของเรา เพื่อล้างผลาญกันเอง เราจะยังเป็นสุขได้อีกหรือ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือ ให้ขอขมากัน ให้อภัยกัน เพื่อลดภพชาติที่ต้องมาจองเวรกัน มาขัดขวางการสร้างบารมีกันเอง เพราะ..ทิฐิมานะที่ไม่ยอมแพ้ อาจทำให้เราต้องแพ้ตลอดไปก็ได้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น