ทวยเทพทั่วไป เมื่อสิ้นอายุขัย จะละจากสวรรค์ จะมี”บุพนิมิต” ไม่ดี เช่น ดอกไม้ที่ประดับ จะเหี่ยวแห้งลง แล้วเสื้อผ้าเครื่องประดับ รัศมีกาย จะหมองลงไปเรื่อยๆ (เทวดาองค์อื่นๆ ก็มองเห็น)..เทวดาที่จะจุติ..จะเกิดความสลดใจ ทุกข์ใจ .ไม่รู้ว่าจะได้ไปเกิดที่ไหน ลำบากอย่างไร..เกิดเบื่อหน่าย..ทำให้หยาดเหงื่อไหลออกจากรักแร้ทั้งสอง(ช่วงหมดบุญ). น้ำหนักตัวหนักขึ้นๆ
..ถ้าทวยเทพที่มีบุญมาก จะไม่กลัวและไม่หวาดหวั่น เพราะมั่นใจสั่งสมบุญไว้ดี จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี เทวดาเหล่านั้น..บางองค์ จะเข้าไปสู่สวนนันทวันอุทยานสวรรค์ เข้าไปนอนบนแท่นเป็นที่จุติ เหล่าเพื่อนทวยเทพ จะกล่าวอำนวยพรว่า “ จงบำเพ็ญบุญเอาไว้มากๆ จะได้กลับมาเสวยสุขในสวรรค์ด้วยกันอีก”
**.ทวยเทพที่มีภารกิจ มีบารมี จะอยากไปโลกมนุษย์ โลกแห่งการสร้างบารมีได้ดีที่สุด เพราะ สามารถ สั่งสมบุญกันให้เต็มที่ ทั้งทาน ศีล ภาวนา จนเข้าสู่กระแสธรรม พระนิพพานได้ไม่เนิ่นช้า ยิ่งเทวดาโพธิสัตว์ยิ่งลงมาเกิดบ่อย แม้ยังไม่สิ้นบุญ บางทีเหล่าเทวดา ก็อัญเชิญให้ลงมาดับทุกข์แก่สรรพสัตว์ ท่านจะลงมาเกิดที่ใด วรรณะไหน ขึ้นอยู่กับว่า.จะลงมาสร้างบารมีด้านใด..จะโปรดกลุ่มไหน.เหล่าเทวดาบริวารบางองค์จะขอจุติตามมาด้วย
..
... เหล่าเทวดาบางองค์ รู้ว่าถ้าเสวยบุญบนสวรรค์จนหมดอายุขัย มีโอกาสลงอบายภูมิ.เทวดาองค์นั้น จะขอจุติ(เคลื่อน).มาจุติรับกรรมในโลกมนุษย์ ..เพื่อชดใช้กรรมเก่าให้หมดสิ้นไปก่อนดีกว่า การไปสู่อบายภูมิ
** เทพบุตร และ เทพธิดา ที่มีบุญบารมีมาก ถ้าต้องการลงมา จุติ(เคลื่อน)..มาเกิด(อุบัติ) เป็นมนุษย์ จะ ไปกราบขออนุญาต ขอพรท้าวสักกเทวราช และ ท้าวสหัมบดีพรหม แล้วแต่ท่านนั้น จะเป็นพรหมหรือเทวดา
และต้อง มีพรหมหรือเทวดาผู้ใหญ่ให้การรับรองว่า จะช่วยควบคุมความประพฤติของเราในระหว่างที่สร้างบารมีอยู่ เพื่อให้อย่างน้อยได้กลับขึ้นไปเท่าเดิม หรือต้องได้ดีกว่าเดิมเท่านั้น จึงมีสิทธิ์ลงมาเกิด
.. เมื่อรับพรจากพระอินทร์แล้ว แล้ว เทพบุตร และ เทพธิดา จะเข้าผลสมาบัติ แล้วเคลื่อนภพ จุติ. ลงมาในโลกมนุษย์ หายวับทันที พร้อมวิมานก็อันตธานหายไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น