23 มกราคม 2564

โลกธรรม ๘

โลกธรรม ๘ ประการมีอะไรบ้าง ลูกและหลานที่รัก จงอย่าเมาในโลกธรรม​ ๘ ประการ​ คือ
🖊️๑. ลาภ ยังไม่เกิดขึ้น อย่าตะเกียกตะกายเกินไป อย่าเมาเกิน อย่าลืมว่า คนตายแล้วนะแบก
อะไรไปไม่ได้ แม้แต่ผมสักเส้นเดียวก็นำไปไม่ได้ แต่ลาภสักการะจำเป็นจะต้องหา เพราะร่างกายด้องกิน​ ต้องใช้ แต่ก็หาด้วยความขยันหมั่นเพียร หาด้วยความชื่อสัตย์สุจริต คิดเราภารกิจ​ที่เรารับผิดชอบ​มีอะไรบ้างเราต้องทำตามนั้น เรียกว่า ทำตามหน้าที่ของเรา

ลาภถ้าหามาได้ ควรทำลาภที่ได้มาด้วยความเหนื่อยยาก ให้เป็นประโยชน์แก่ตนและบุคคลอื่นตามสมควรที่พึงแบ่งสรรปันส่วนกันได้ เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคี เป็นการสร้างความรัก เพื่อความสุขใจของเรา

🖊️๒. ลาภหมดไปชื่อว่า เสื่อมลาภ เมื่อลาภมันต้องสลายตัวไปก็ต้องรู้ตัวว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นมัน
เป็นของธรรมดา เพราะเราหามาเพื่อใช้ ถ้ามันจำจะต้องเสียไปด้วยเหตุใดก็ตาม เป็นกฎของกรรม เราต้องยอมรับ ทำใจให้สบายว่า นี่มันเป็นของธรรมดา เมื่อมันหมดไปเราก็ต้องหาใหม่ตามหน้าที่ อย่าสร้างความเสียใจให้เกิดขึ้นในลาภ ถ้าเราเมาในลาภเมื่อได้มาแล้ว แล้วก็เสียใจเมื่อลาภหมดไป เราก็เป็นคนเลว

🖊️๓. ยศ การทำความดี ย่อมมียศ ยศเขาแปลว่าอะไร พ่อไม่ทราบ พ่อก็ขอพูดตามภาษาของพ่อ 
ว่า "ยศ" คือ การแต่งตั้ง ยกย่อง ส่งเสริม ที่บุคคลเขาเห็นว่าดี ถ้าเราดีเขาชอบใจ เขาก็ยกย่องส่งเสริมว่าเราเป็นคนดี แต่ว่า ถ้าบังเอิญเขาเกิดไม่ชอบใจขึ้นมาเมื่อไร เขาก็ทำลายยศเสียได้เหมือนกัน

🖊️๔. การถอดถอนยศฐาน์บรรดาศักดิ์ ถอดการยกย่องสรรเสริญเชิดชูว่าเป็นคนมีศักดิ์ศรีดีนีเรื่องของชาวโลกมันต้องมียศ ฉะนั้นเรื่องยศฐาน์บรรดาศักดิ์ บรรดาลูกหลานที่รัก จงอย่าตะเกียกตะกายเข้ามาเพื่อตน​ แต่
ความดีเราทำ ทำให้มันดีที่สุดตามธรรม ตามประเพณีนิยม
หมายความว่า ประเพณีที่เขาใช้กันเป็นปกติ ที่ไหนก็ตาม อย่าฝ่าฝืนประเพณีนิยมของถิ่นนั้น
อีกประการหนึ่ง อย่าฝ่าฝืนศีลฝืนธรรม ฝืนกฎข้อบังคับ ฝืนกฎหมาย มันจะเป็นเหตุภัยให้เรามีความ
ทุกข์ เขาจะยกย่องแต่งตั้ง สรรเสริญเยินยอ ให้เรามียศชั้นไหน อย่าสนใจ

คำว่า ไม่สนใจ หมายความว่า เขาให้แล้วก็รับ เป็นการสนองความดี แต่ว่าจงอย่าเมาในยศที่พึง
ได้ คิดว่าเราได้มาจากความดี ผลความดีที่เราต้องการช่วยตัวเรา ให้ผลตามนี้เราก็รับ ผลที่เราต้องการ
คือ วัตถุที่เราพึงได้มาในการครองชีพ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ความสุขจริง ๆ ก็คือ ใจที่มีความสงบ ถ้า​ บังเอิญยศฐาน์บรรดาศักดิ์ เราทำตีทุกอย่าง แต่ไม่เป็นที่พอใจของผู้ให้ เขาถอดถอนไป ก็โยนทิ้งให้เขาไป

การตะเกียกตะกายอยากได้ลาภ โลภโมโทสันมันเป็นความเลวของใจ การทะเยอทะยานอยาก
ได้ยศฐาน์บรรดาศักดิ์มันก็เป็นความเลวของใจเหมือนกัน ถ้าลาภหมดไป ยศหมดไป เสียใจ ก็เป็น
ความเลวของใจ จงจำไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งเป็นโลกธรรม วางมันเสีย ทำงานตามหน้าที่ของตน

🖊️๕ และ ๖ นินทากับสรรเสริญ ก็เหมือนกัน อย่ามีในวงการของเรา คือ ใครเขานินทาอย่าสะเทือนใจ
อย่าสนใจ แม้แต่พระพุทธเจ้าถูกนินทาถูกด่ายิ่งกว่าเราเยอะ ท่านก็เป็นพระพุทธเจ้าอยู่ได้ แม้แต่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เหมือนกัน พระองค์ทรงเมตตาอย่างยิ่งไปทุกแห่งหนต้องการให้ประชาชนมีความสุข แต่ข่าวนินทาว่าร้ายก็ยังมีเป็นปกติ ใครจะว่าท่านอย่างไร จะนินทา จะด่าว่าท่านอย่างไรก็ตาม​ ท่านก็เฉย ท่านทรงวางพระทัยได้ดีมาก และท่านก็ทำทุกอย่างเพื่อความดี เพื่อความอยู่เป็นสุขของประชาชน

เราพยายามมองตัวของเราเองอยู่เสมอ ว่าเรามันดีหรือมันชั่ว การนินทาสรรเสริญ มันเป็นความเลว
ของปาก เขานินทาเรามาเรานินทาเขาไป ก็เหมือนกับสุนัขมันเห่าเรา เราก็เห่าสุนัขตอบ สุนัขมันกัดเรา
เราก็กัดสุนัข ก็เสร็จ อุจจาระมันเปิ้อนเรา เรากัดอุจจาระ มันก็พัง

🖊️๗ กับ ๘ ความสุขและความทุกข์ ในโลกนี้อย่าสนใจ จงสนใจอย่างเดียว ธรรมะขององค์
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงสอนให้เรามีความสุข เราทำทุกอย่าง โลกนี้มันจะสุขหรือจะ
ทุกข์ก็เป็นเรื่องของมัน ร่างกายของเราจะอยู่ในโลกนี้ไม่กี่วันมันก็พัง ฉะนั้นในเมื่อพระพุทธเจ้าท่าน
ปรินิพพานไปแล้ว ร่างกายของท่านพัง ท่านบอกว่า ท่านมีความสุข พระอรหันต์ทั้งหลาย ร่างกายของ
ท่านพัง ท่านก็บอกว่า ท่านมีความสุข เราก็พยายามสุขอย่างท่านบ้าง ท่านทำอย่างไรเราก็ทำอย่างนั้น
ค่อย ๆ ทำไป

ขอสรุปว่า ข่าวคราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ถือว่าเป็นธรรมดาของโลก เราจงโทษกฎของกรรมว่า กรรม
ที่เรามีความโง่เกิดมาในโลกนี้แล้ว มันจะทำความโง่ไม่ได้อย่างไร ผลของความโง่ ก็คือ ความชั่วขอ
จิต เราเกิดมาในโลกนี้ โลกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ความร้อนมันก็ถูกเราว่าให้มันถูกแต่กาย ข่าวมีมาให้มันกระทบแต่เฉพาะหู อย่าให้มันเข้าไปถึงใจ ใจของเราทำอย่างไร​ อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้
เรามีเมตตาในคนให้ข่าว ว่าคนที่ออกข่าวไป น่าสงสารไม่กี่วันท่านก็ตายแล้ว ทำไมท่านสร้างความชั่วให้เป็นความเดือดร้อนของท่าน

ข้อนี้สำคัญ จงจำไว้ว่า จงอย่าคิดว่าเราดีไว้เสมอ "อัตตนา โจทยัตตานัง" จงกล่าวใทษโจท
ความผิด มองดูความบกพร่องของจิต ว่าจิตเราบกพร่องตรงไหน พยายามแก้ไขไปสู่ระดับความดี
ความดีอย่างนี้ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องการ

🖊️📖จากหนังสือ พ่อสอนลูก เล่ม ๒ หน้า๒๖๕~๒๖๘
🙏🙏พระธรรม​คำสอน​ หลวงพ่อ​พระราช​พรหมยาน​ วัดจันทาราม​ (ท่า​ซุง)​

🖊️พิมพ์​พระธรรม​โดย​ นภา​ อิน​ 🙏🙏

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...