แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ โรคทางกายและโรคทางใจ
สัตว์ทั้งหลายที่ยืนยันว่าตัวเองมีสุขภาพดี ไม่ป่วยไข้
ไม่มีโรคทางกายตลอด ๑ ปี ๒ ปี ถึง ๑๐๐ ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น
ความปลอดภัยจากโรคทางกายนี้พอที่อาจจะมีได้บ้าง
แต่สัตว์และมนุษย์ทั้งหลายที่จะยืนยันว่าไม่มีโรคทางใจ
ไม่มีกิเลสแม้สักระยะครู่หนึ่งนิดเดียวจะไม่สามารถหาได้และมีได้ในโลกนี้
เว้นแต่เพียงพระพุทธเจ้า พระขีณาสพ พระอรหันต์เท่านั้น
จึงจะเว้นโทษ คือ โรคทางใจได้ ยิ่งพวกเราเป็นบรรพชิตด้วยแล้ว
มีโรคอยู่ ๔ อย่าง แทรกซ้อนชอนไชเข้าไปสู่หัวใจพระเณรโดยไม่รู้ตัว
.
๑.โรคมักมาก เป็นพระมักมากมูมมาม อยู่ที่ไหนก็มีแต่ความเดือดร้อน
กระวนกระวายใจ ไม่รู้จักพอด้วยผ้านุ่งผ้าห่ม
อาหารการกิน ที่อยู่ที่อาศัย และยารักษาโรค
เที่ยวแสวงหาแต่สิ่งเหล่านี้ ไม่รู้จักลดละปล่อยวาง
ไปที่ไหนก็แบกหามสิ่งเหล่านี้ไปด้วย
ไม่เป็นสมณะที่เบาสบาย เบากายเบาจิต
.
๒.เมื่อเกิดโรคมักมากแล้ว โรคลามกจกเปรตก็ตามๆ กันมา
เหมือนนัดกันไว้ที่ความเลวทราม ต่ำช้า
ทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะให้คนมานับถือ
เพื่อจะได้ลาภสักการะ มาปรนเปรอความหิวโหยของใจที่ไร้ศีลธรรม
.
๓.เมื่อจิตใจมันสกปรกลามกเข้าเต็มเปาแล้ว
ย่อมพยายามวิ่งเต้นขวนขวายเพื่อได้มาซึ่ง
ความนับถือ ลาภสักการะ และการสรรเสริญ
อย่างไร้ยางอาย หน้าด้านต่อศีลต่อธรรม
.
๔.พระที่เป็นอย่างนี้มักเข้าไปสู่สกุลที่ร่ำรวย
ทำทุกอย่าง ทุกวิถีทางเพื่อให้เขามานับถือ
มักจะกล่าวธรรมะปลอมๆ อันไพเราะเพราะพริ้งเป็นฉากหน้า
ซ่อนเร้นความละโมบโลภมากไว้ในเบื้องหลัง
แสดงตนเป็นประดุจไม่มีความโลภ ทั้งๆ ที่มีความโลภจัด
มีขันติ อดทนอดกลั้น เพื่อให้เขามานับถือ
.
โรคทั้ง ๔ อย่างที่ผมกล่าวมานี้แหล่ะ ให้พวกท่านระวัง
มันร้ายกว่าโรคที่ผมป่วยอยู่เสียอีก ขอให้พวกท่านจงนำไปพิจารณา
อย่าป่วยอย่าไข้เฉยๆ โดยไม่เห็นคุณเห็นโทษ
ไม่งั้นจะแก้ไม่ได้ ใช้งานไม่ทัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
.
โอวาทธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น