การฝึกปฏิบัติธรรม....
ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม
ระดับเบื้องต้น
ระดับท่ามกลาง
หรือ ระดับที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุด คือ การวางใจที่ถูกต้อง
การวางใจที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร?
ก็คือ เดินอยู่ในเส้นทาง ที่เรียกว่า
#ทางสายกลาง นั่นเอง
เส้นทางสายกลาง
เพื่อกลับคืนสู่ความเป็นกลางของธรรมชาติ
นั่นคือ การวางใจที่ถูกต้อง
ละความพอใจ ไม่พอใจในโลก
เวลามีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น
เราก็มักเกิดความรู้สึกที่พอใจขึ้นมา
ก็รู้เท่าทัน ละความพอใจในโลก
เวลามีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น
เกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ก็ละ... รู้เท่าทัน... ละความไม่พอใจในโลก
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
มีความเพียร
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ ละความพอใจ ไม่พอใจในโลก
อันนี้คือ หลักการของการฝึกปฏิบัติ
ตลอดเส้นทางที่จะนำไปสู่
ความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
เส้นทางมีเส้นเดียว ทางสายเดียว
ก็คือ ทางสายกลาง นั่นเอง
เพื่อกลับคืนสู่ความเป็นกลางของธรรมชาติ
ธรรมชาติที่บริสุทธิ์
มีความเป็นกลางอย่างยิ่ง
ไม่มีความพอใจ หรือความไม่พอใจใดๆ ในโลก ดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลางของธรรมชาติ
เพราะฉะนั้น เราจะเข้าถึง
ความเป็นกลางที่แท้จริง
ก็คือ คืนสู่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ
เวลาเข้าถึงความบริสุทธิ์..มันมีอะไรไหมล่ะ?
ก็มีแต่ความเป็นกลาง
ไม่อะไร กับ อะไร
ไม่มีความพอใจ หรือ ไม่พอใจใดๆ ทั้งสิ้น
เพียงแต่ว่า เราไม่สามารถ
ที่จะเข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ตลอดเวลา
เวลาถอนออกมาก็มักเกิดความพอใจ ไม่พอใจขึ้นมาก็หมั่นรู้เท่าทัน
เวลาจิต เกิดการกระเพื่อมขึ้นมา
ก็รู้เท่าทันจิตใจตนเอง...ละความพอใจ ไม่พอใจ กลับเข้าสู่จิตใจที่ตั้งมั่น
เข้าถึงความเป็นกลางอยู่เสมอ
จะเริ่มต้นจากฐานกายก็ได้
ฐานเวทนาก็ได้
ฐานจิตก็ได้
วิปัสสนาญาณก็ได้...ใช้ได้ทั้งนั้น
เมื่อสติมีฐาน ก็จะกลับสู่ความตั้งมั่น
กลับสู่ความเป็นกลางของธรรมชาติ
ได้โดยธรรมชาติเลย
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า
...กายคตาสติ ที่บุคคลส้องเสพแล้ว
...ชื่อว่าส้องเสพในอมตธรรม
อมตธรรม ก็คือ ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ
คุณลักษณะ ก็คือ มีความเป็นกลาง...
อย่างยิ่ง นี่คือแนวทาง นี่คือวิถี
และคือเนื้อแท้ ของพวกเราทุกคน
ถ้าความไม่เป็นกลางเกิดขึ้น
จิตเกิดการกระเพื่อม
เกิดความพอใจ ไม่พอใจ ก็รู้เท่าทัน
สามารถวางใจได้ทั้งสิ่งที่ดี และ สิ่งที่ไม่ดี
ธรรมชาติ ก็มีทั้งสิ่งที่ดี และ สิ่งที่ไม่ดี
เหมือน มีความสว่าง กับ ความมืด
มันเป็น สัจธรรมอยู่แล้ว
เวลาเจอสิ่งที่ดีแล้ว ก็มักเกิดความพอใจ
ก็ละความพอใจ
เวลาเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้น ก็มักเกิดความไม่พอใจ
ก็รู้เท่าทัน ละความไม่พอใจ
กลับมารู้สึกตัว ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
กลับมาอยู่ภาวะที่จิตตั้งมั่น
เข้าถึงความเป็นกลางอยู่เสมอ
นี่คือ แนวทาง หลักการของการฝึกปฏิบัติ
ที่เราใช้ได้ตลอดเส้นทางเลย
ถ้าเรามีหลักตรงนี้ จะไม่ออกนอกทาง
ไม่ว่าเราปฏิบัติ เข้าถึงสภาวะใดก็ตาม
หรือเจอสิ่งใดก็ตาม
การวางใจที่ถูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ให้กลับเข้าสู่ความเป็นกลางอยู่เสมอ
ให้ถอนความพอใจ ไม่พอใจอยู่เสมอ
ถ้าเรามีหลักตรงนี้ การปฏิบัติของเรา
ก็จะไม่หลุดออกนอกทาง
เมื่อหลุด ก็สามารถรู้เท่าทันได้
สามารถกลับคืนสู่ความเป็นกลางได้
เพราะธรรมชาติ เป็นกลางอย่างยิ่ง
ถ้าเราไม่เดินเส้นทางสายกลาง
จะกลับคืนสู่ความเป็นกลาง ได้อย่างไร?
ก็ให้ไว้เป็นหลักของการปฏิบัติธรรม ในทุกๆ ระดับ
ก็ค่อยๆ ฝึกกันไปเรื่อยๆ สบายๆ
เดี๋ยวจะได้ปล่อยให้ไปปฏิบัติกันตามอัธยาศัย
ถ้ายังไม่ง่วงก็ทำความเพียร
เดินจงกรม นั่งสมาธิ
พอสมควรแล้วก็ค่อย เวลาพักผ่อนก็นอนภาวนา
ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมไปเรื่อยๆ
จะหลับ ไม่หลับ ก็ช่าง ไม่ต้องกังวล
บางทีปฏิบัติไป กายมันหลับ แต่จิตมันตื่น
มีไหม? กายหลับ แต่จิตก็ตื่นรู้อยู่
ถ้าสติทรงตัว มันก็จะเป็นอย่างนั้นนะ
มันจะแยกกาย แยกจิต
ร่างกาย ระบบประสาท ก็พักผ่อน
แต่ว่าจิตที่ตื่นแล้ว ไม่จำเป็นต้องพักผ่อนนะ
ก็ปล่อยให้มันตื่นไปเรื่อยๆ
หลับ ก็ส่วนหลับ รู้ ก็ส่วนรู้
ถ้าเราปฏิบัติได้ถึงตรงนี้ ช่วงพักผ่อน
การปฏิบัติมันจะลึกซึ้งลงไปเรื่อยๆ
ตื่นมาก็ปฏิบัติต่อ ก็ค่อยๆ ฝึกปฏิบัติไป
การใช้ชีวิตด้วยการขัดเกลาตนเอง
ชำระกิเลสออกไปจากใจ
คือ ชีวิตที่ประเสริฐที่สุดแล้ว
เราเวียนว่ายตายเกิด ในวัฏสงสาร
มานับภพชาติไม่ถ้วน
ผ่านอะไรมาก็มาก ทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี
แต่ก็ไม่มีสิ่งใด ที่จะประเสริฐเท่ากับ...
การที่ได้เข้าถึงธรรมที่บริสุทธิ์
เพราะฉะนั้น ปัจจุบันเรามีโอกาสตรงนี้
ก็ทำให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
โดย พระมหาวรพรต กิตติวโร
4 ตุลาคม 2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น