[ณ เมืองมาตุลา แคว้นมคธ พระพุทธเจ้ากล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า]
พ: พวกเธอจงมีตัวเองและธรรมะเป็นที่พึ่ง มีสติระลึกรู้กาย ความรู้สึก จิต และธรรม (สติปัฏฐาน 4) จะเกิดบุญกุศล...
เมื่อคราวที่คนจำนวนมากยากจนขัดสน ก็เกิดการลักขโมย อาวุธหากันได้ง่าย มีการฆ่ากันตาย พูดจาโป้ปดมดเท็จ บิดเบือนความจริงกันมากมาย เมื่อนั้น อายุของคนก็จะลดน้อยลงจาก 80,000 ปี...40,000 ปี...20,000 ปี...10,000 ปี...5,000 ปี...2,500 ปี...1,000 ปี...500 ปี...เหลือ 250 ปี ซึ่งถึงตอนนี้ คนไม่มีการเคารพดูแลพ่อแม่ สมณะพราหมณ์ หรือผู้ใหญ่ในตระกูล อายุก็เสื่อมถอยลงเหลือ 100 ปี
ในอนาคต มนุษย์จะมีอายุ 10 ปี เด็กหญิง 5 ปีก็จะมีสามีกันแล้ว กุศลความดีต่างๆหายไปสิ้น ไม่มีใครฟังใคร สมสู่ปะปนกัน คิดร้ายฆ่ากันเอง
เมื่อนั้น จะมีคนกลุ่มหนึ่งมีความคิดว่า พวกเราอย่ามาฆ่ากันเองเลย พวกเราพากันแยกตัวออกไปอยู่ตามป่าเขา แล้วทำแต่กุศลกันจะดีกว่า ซึ่งหลังจากนั้น มนุษย์เหล่านี้ก็เจริญขึ้น มีอายุขัยยืนยาวขึ้นตามลำดับ จาก 10 ปี...20 ปี จนกลับไปถึง 80,000 ปี
คราวที่มนุษย์จะกลับมีอายุขัย 80,000 ปี พระพุทธเจ้านามว่าเมตไตรยจะเกิดขึ้นบนโลก พระองค์จะตรัสรู้ได้ด้วยตนเอง มีจิตตั้งมั่น สงบจากกาม จากสิ่งอกุศล บรรลุฌานขั้นต่างๆ (จรณะ) และมีวิชชา 8* โดยจะบริหารภิกษุสงฆ์หลายพัน เหมือนตถาคตที่บริหารภิกษุสงฆ์หลายร้อยในขณะนี้...
___________
ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 15 (พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ภาค 3 เล่ม 1 จักกวัตติสูตร), 2559, น.99-118
*วิชชา 8
พิจารณาให้เห็นความจริงของสิ่งต่างๆ
เนรมิตกายอื่นที่ต่างจากกายนี้
แสดงฤทธิ์
ฟังเสียงทิพย์ทั้งใกล้ไกลที่มนุษย์ไม่ได้ยิน
อ่านสภาวะจิตผู้อื่น
ระลึกชาติ
มองเห็นการเกิดตายของสัตว์ทั้งหลาย
รู้ว่าอะไรคือทุกข์ สาเหตุของทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีการดับทุกข์ และจะรู้ได้ว่าตัวเองได้หลุดพ้นแล้วในกรณีที่จิตหลุดพ้นแล้ว
#พระพุทธเจ้าพูดอะไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น